Monday 18 November 2019

job at the 7-11, back to rehab (1)

รถขายของประจำอยู่หน้า 7-11 ปากซอยอมร
ผมไมแน่ใจว่าทำไมธีร์หลุดกลับไปเล่นยาหลังจากเค้าไปบำบัดตัวที่ ร.พ.
 
แต่เราไม่น่าจะตกใจมากนัก
เพื่อนในกลุ่ม ชื่อวุฒิ เผยว่าน้องหาแหล่งยาเล่นตั้งแต่วันแรกที่ออกจาก ร.พ. เลย
ต้นเหตุน่าจะเกี่ยวกับพ่อแม่น้อง
พ่อเค้าขายยาบ้า (ก่อนโดนจับเข้าคุก)
แม่ปล่อยให้ลูกเล่นยาจนน้องเคยชินกับไลฟ์สไตล์นี้และลืมอนาคตตัวเอง
ในบทเขียนสุดท้ายเรื่องราวน้องธีร์
น้องจะรับงานเป็นเด็กเซเว่นใกล้บ้านเราในช่วงต้นเดือนกุมภา 2019
เป็นงานใหญ่ที่สุดที่เค้าเคยทำตั้งแต่กลับบ้าน แต่น้องทำได้แค่ไม่กี่อาทิตย์เอง
สุดท้ายจะโดนทางเซเว่นไล่ออกจากงานเพราะตื่นสายเข้ากะช้า
สาขานี้ห่างจากบ้านเค้าไม่ถึง 100 เมตร น้องเดินไปทำงานได้สบาย เค้าเข้ากะหลังเที่ยงวันแต่ก็ยังไม่ไหวอีก
หลังทำงานเซเว่นเสียไป น้องไม่ได้ไปแตะต้องหรือสัมผัสกับงานอีกเป็นนานกว่าสามเดือน
ใช้เวลานี้เล่นยาแทนจนเกือบหมดสภาพการเป็นคนอีกแล้ว
ในช่วงหลายเดือนนี้ ที่สภาพจิตน้องเสื่อมลงอีก
เราไม่เห็นแม่กีดขวางไม่ให้น้องเล่นหรือไปทำอะไรช่วยเค้าเลย
แม่เลือกปล่อยให้เค้าไปเล่นและทำร้ายกับตัวเองแบบนี้แระ เหมือนครั้งที่แล้วที่แม่ไล่เค้าออกจากบ้านโดยไม่ได้ไปสนใจอีก
แม่มีอาการติดเพื่อน ติดเฟซ และเริ่มคบกับแฟนเป็นทอมต่างจังหวัด (เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง)
เค้าคงไม่อยากรับปัญหาลูกชายมากนัก
แต่อาการน้องหนักขึ้นไปเรื่อยจนพวกเราต้องเป็นห่วงอีกแล้ว ว่าเมื่อไรใครจะพาเค้าไปบำบัดตัวสักที
สุดท้ายวันนั้นจะมาจริง ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน
แต่ครั้งนี้น้องจะไปรักษาตัวนานเป็นสี่เดือนกว่าจะเสร็จ
ผมโพสต์แบบย้อนหลังกลับไปดูแต่ละเหตุนะเริ่มตั้งแต่น้องจะรับงานที่เเซเว่นไป
อ่านต่อได้นะครับ
ผมไปหาน้องที่ห้องเช่าเค้า หลังจากเราไม่ได้เจอกัน 10 วัน
พอไปถึงหน้าห้องซึ่งห่างจากบ้านแม่ไม่กี่เมตร คนแรกที่ผมเจอคือเพื่อนบ้านแม่ ชื่อเต้
เต้ยังดูเป็นหนุ่มเลยแต่เป็นพ่อของน้องต้น เพื่อนสนิทธีร์ ด้วย
ผมทักเค้าแล้วก็ถามว่า
ผมอยากคุยกับธีร์ ขอเคาะประตูให้หน่อยได้มั้ย
ผมเกรงใจน้อง รู้สึกอึดอัดใจหน่อยเพราะวันนั้นที่ไปหา ไม่มีใครชวน
น้องต้นเพิ่งไปบอกผมว่าน้องเก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่ยอมออกไปหาใครๆ
เต้ คงดีใจที่ได้กวนน้องเล่นๆ
เค้ายิ้มให้ผมแต่ไม่ได้เคาะประตูให้
แต่กลับถีบประตูให้เปิดบั้งเลย
แล้วก็เรียกธีร์เสียงดังๆ ว่า ไอ้ธีร์ ไมเคิลมาหา
น้องที่นอนตัวคว่ำในมุมห้องตื่นสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียง
เป็นอะไรไมเคิลเค้ารีบถามผมมา
ผมอธิบายให้ฟัง ไม่เป็นอะไร เราเป็นห่วงว่าธีร์มีอาการซึมเศร้า ทำไมไม่ออกไปหาเราบ้าง
ผมพูดพร้อมแอบดูสภาพห้องเค้า
ข้าวของถูกทิ้งระเกะระกะจนผมแทบไม่กล้าเดินเข้าไปหาน้องเลย
ห้องทำด้วยคอนกรีดธรรมดาที่สร้างเป็นห้องพัก เจ้าของปล่อยให้เช่าไม่กี่พันบาทเอง
ฝาผนังก็ไม่ทาสี และพื้นห้องไม่มีกระเบื้องปู — เป็นแค่ปูนฉาบเฉยๆ — หรือตกแต่งอะไร
เป็นรูปสี่เหลี่ยมดูเหมือนห้องกักขังมากกว่าห้องพัก
มีห้องนอนกับห้องน้ำแยกอีกห้องหนึ่ง 

now, see here

out of hospital (7, final)

ะให้ได้รู้ว่าเค้าเลิกจริงรึป่าว
ผมยอมใจทำเพื่อความสบายใจครอบครัว’ เค้าบอกด้วยความภูมิใจตัวเอง
เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว ชีวิตต้นเริ่มแตกแยกออกจากธีร์ อีกอย่างหนึ่ง
เมื่อพ่อแม่ซื้อรถมอร์ไซค์ให้เค้า (ธีร์ไม่มี)
โลกเปิดกว้างขึ้นทันที เพราะต้นได้ขับรถไปข้างนอกได้แล้ว
ตอนแรกเราไม่แน่ใจว่า ธีร์จะอาจอิจฉาตาร้อนตัวน้องมั้ยที่เห็นเค้าได้ที่มีมอร์ไซค์ขับเล่นๆแล้ว แต่เปล่า ผมไม่เคยเห็นว่าเค้าจะมีอาการแบบนั้น
แต่เค้าน่าจะรู้สึกตัวบ้างว่า พวกเพื่อนเริ่มสร้างอนาคตแล้วโดยธีร์ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย
และแล้วที่ต้นตัดสินว่าจะเลิกเล่นยากับเพื่อน อาจจะพาเค้าไปห่างๆจากธีร์เข้าไปอีก
ต้นเป็นเด็กดี ทางบ้านโทรตามหาเค้าบ่อย เพื่อจะเช็คดูว่าเค้าทำอะไรอยู่
น้องรู้ดีว่าทางครอบครัวเป็นห่วง
มีวันหนึ่ง เรานั่งด้วยกันสองคนที่หน้าบ้านวุฒิ ในขณะทางบ้านโทรหาต้น
พอคุยเสร็จเค้าหันไปบอกผมสั้นๆว่า
'ไม่เหมือนกับธีร์ร์เนอะ'
น้องหมายถึงว่า
ทางบ้านต้นดูแลและเป็นห่วงเค้าอย่างดี
ไม่เหมือนทางบ้านธีร์ ที่ไม่ค้อยสนใจเลย
ซึ่งวัยรุ่นในซอยรู้ดีว่า แม่เค้าไม่ค่อยแคร์ 
-
มาถึงเวลาแล้วที่ต้นจะบอกธีร์ว่าอยากเลิกเล่นยา
ปกติต้นกับธีร์จะเล่นยากันที่บ้านเพื่อน
แต่ต้นไม่เอาแล้ว
เมื่อวันก่อนเค้าบอกธีร์ว่า ผมตั้งใจเลิกแล้ว
ธีร์กำลังออกไปซื้อยาที่โต๊ะแปดพอดี
พอกลับถึงบ้าน ธีร์ก็ถามน้องต้นว่า 
'แน่ใจเหรอ ไม่อยากเล่นเป็นเพื่อน'
ต้นยืนยันว่าไม่เอา
ธีร์ถามเสร็จก็เล่นยาไป
ใจเค้าอยากเล่นไง ถ้าต้องเล่นคนเดียวก็ไม่เป็นอะไร
-
เมื่อไรเนอะธีร์จะเข้าใจว่า เพื่อนๆเริ่มจะโตกันเป็นหนุ่มแล้ว
เมื่อได้งานทำ เค้าจะเก็บตังค์ไว้ซื้อสมบัติส่วนตัวบ้าง เช่น จยย
จากนั้นหลังได้เจอคู่รักคู่ชีวิตจะสร้างครอบครัวโดยไม่ต้องไปยุ่งกับยาเสพติดอีก
เมื่อเค้าเลือกว่าจะดำเนินชีวิตเป็นคู่
เค้าต้องรับผิดชอบซึ่งกันและกัน
ยาจะไม่มีความหมายอะไรต่อชีวิต
น้องต้นยังอายุน้อย แต่เริ่มก้าวไปสู่เส้นทางชีวิตที่เค้าเลือกเรียบร้อยแล้ว
ต่างกับธีร์ ที่โตกว่าตามอายุแต่ยังคิดเหมือนเด็ก
-
มิก (คนซ้ายสุด) กับเพื่อนฝูงร่วมถึงน้องป๊อปคนขวามือสุด (เจอกันในเรื่อง ป๊อป ซอยอมร นะคับ)

สมัยยังเรียนกันอยู่ น้องน้องธีร์กับมิกไปเที่ยวกับแม่ธีร์ที่ฝั้งธน 
พวกใจเหลวไหลมักจะมีออร่า ที่เด็กหัวอ่อนอย่างน้องชอบแสวงหา 
เหมือนแม่เหล็กดึงดูดตะไบโลหะ
พวกนี้จะดูยิ่งน่าตรึงใจ ถ้าเค้าเคยติดคุกไป
เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนเก่าน้องคนหนึ่ง อายุคราวๆเดี๋ยวกัน
ชื่อมิก กลับไปที่ซอยหลังจากหายไปเป็นหลายเดือน
มิกพึ่งถูกปล่อยออกจากคุก หลังโดนศาลลงโทษในข้อหาปล้นร้านค้า
น้องธีร์รีบไปหามิกที่ห้องเช่า ห่างจากบ้านวุฒิไม่กี่เมตร
เหมือนกลัวจะขาดอะไรสักอย่างถ้าไม่ไปเจอทันที
คนเล่าให้ฟังว่า มิกกับเพื่อนแก๊งวัยรุ่นแถวนี้ ถูกตำรวจจับและดำเนินคดีว่าร่วมตัวปล้นร้านเซเว่นสาขาใกล้บ้านเรา
ศาลลงโทษติดคุกประมาน 6 เดือน
มิกกับเพื่อนเข้าคุกด้วยกันเป็นกลุ่ม แล้วถูกปล่อยออกมาพร้อมกันด้วย

มิกและธีร์ก็รู้จักกันมาก่อน
ถ้าน้องแวะไปหาเค้าที่ห้องมันก็ไม่น่าตกใจมากนัก
แต่นี้ดูเหมือนว่ามันรีบดิ่งไปหาเลยไม่อยากพลาดโอกาส 
เหมือนน้องต้องสูบกลิ่นหรือสัมผัสบรรยากาศคุกให้ได้
มิกพึ่งกลับมาไม่กี่ชัวโมงก่อน แต่น้องเร่งแอบไปหาเรียบร้อยแล้ว เพื่อจะได้ฟังว่าประสบการณ์ที่โน่นเป็นยังไง
วันนั้นผมกำลังคุยกับน้องอยู่หน้าบ้านวุฒิพอดี 
เมื่อเผลอหันไปทางอื่นปุ๊บ
น้องหายตัวไปแว็บเลย
ผมเดินไปหาเค้า แล้วก็เจอเจ้าตัวสองคนจับเข่าคุยกันในห้องเช่ามิก คุยซุบซิบเหมือนผู้รู้เห็นเป็นใจอะไรสักอย่าง สุดยอดจริงๆ
ผมใส่อารมณ์กับมิกนิดหนึ่ง
'อย่าเสือกพาน้องไปเล่นยาข้างนอกอีกนะ ผมอยากให้เค้าเลิก'
มิกก็พยักหน้าดูเกรงใจเราดี
'ไม่ไปๆ ไมเคิล พรุ่งนี้ผมต้องไปรายงานตัว ตรวจฉี่อยู่ดีมิกตอบ
น้องโดดออกจากห้องมิกพร้อมกับผม หมดอารมณ์คุยแล้วมั้ง
'ไปหาคนปกติไม่ได้ใช่มั้ยผมจิกธีร์ 'ต้องไปคบกับพวกนักโทษถึงจะมีความสุขรึว่ายังไง
เค้ายิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรเลย
จากนั้นอีกไม่นาน เรามีข่าวใหม่ว่า มิกออกจากซอยแล้วเพราะอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่
เค้าไปพักอาศัยร่วมกับครอบครัวเค้าข้างนอก
ตามเฟซมิก เราเห็นมิกไปเที่ยววัดพร้อมกับน้องชายและพ่อบ้าง
ก็ดี ไม่ต้องไปยุ่งกับในซอยสลัมนี้อีก
ผมยังจำมิกได้อยู่ตอนสมัยเรียนมัธยมเค้า
มิกเป็นเด็กดีที่กำลังโตแต่หลงทางในชีวิตตัวเองแค่นี้
น่าจะมีอนาคตที่ดี

now, see here

out of hospital (6)

น้องต้น เพื่อนของธีร์
หนุ่มคนนี้เห็นด้วยกับผม 
อีกวันหนึ่ง หลังจากน้องออกจาก  ร พ 
ผมคุยกับหนุ่มอีกคนหนึ่ง ชื่อเต๋า ที่รู้จักคนในวงเพื่อนแม่ เค้าพูดผิดเช่นกัน
'ธีร์ไม่ได้ไปบำบัดตัวหรอกแม่พาเค้าไปพักที่บ้านปู่ย่า
อ้าว แล้ววันนั้นที่แม่พาเราไปหาน้องที่ รพ ผมนึกฝันเองเหรอ
ครั้งนี้ผมไม่ได้แก้ข้อมูลให้เค้าหรอก แต่เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนรุ่นน้องธีร์ให้ฟัง
น้องคนนี้ชื่อต้น (นามสมมุติ) เป็นเพื่อนรุ่นน้องของธีร์ตั้งแต่สมัยเด็กโน่น
เค้าหัวเราะเพราะรู้นิสัยหนุ่มเต๋าดี 
'อ้อ ไอเต๋าไม่เข้าใจอะไรเลย ชอบพูดมั่ว'
ชุมชนนี้ก็เล็กนะ ชาวบ้านในซอยก็น่าจะรู้จักกันดี รู้เรื่องของชีวิตแต่ละคนไป แต่น่าแปลกเค้าคงรู้จักคนแค่ผิวเผินไม่มีอะไรลึกซึ้งมากหรอก
-
ที่น้องเฟลในเรื่องงานจนทุกวันนี้
ก็เกิดจากว่าเค้ายังไม่มีระเบียบวินัยในชีวิต 
ตื่นสายเข้าทำงานช้าจนถูกไล่ออก 
ตอนนี้ผมนึกถึงวลีเด็ดของแม่ที่ว่า 
'ลูกดูแลตัวเองไม่ได้ จะให้เค้ารับผิดชอบคนอื่นก็ไม่ได้จริงๆ'
แต่ถ้าน้องหัวอ่อนและขาดความรับผิดชอบชีวิตส่วนตัวดังที่แม่ว่า
ตัวแม่ต้องยอมรับว่า เค้ามีส่วนก่อปัญหานี้ด้วย
แม่น่าจะบังคับให้ลูกเรียนต่อหรือออกไปทำงานเป็นนานแล้ว
แล้วก็ห้ามเค้าไปเล่นยาด้วย
แม่ปล่อยเค้าเป็นวัยรุ่นนานเกินไป
แม่ยอมรับกับผม วันนั้นที่เราพาน้องไปบำบัดตัวกัน
มารู้ตัวได้สักทีเนาะ
น้องเริ่มจะโตแล้ว แต่แทนที่จะยืนด้วยลำแข้งตัวเอง เค้าต้องกลับพึ่งอาศัยเงินแม่ตลอด เหมือนเด็กเล็กที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้
และเมื่อแม่อายัดโทรศัพท์ลูกไว้หรือตัดทอนเงินให้เค้าใช้ อย่างที่เค้าชอบทำเวลาไม่สบายใจกับลูก ธีร์จะยิ่งตกในสภาวะเด็กมากขึ้น
สำหรับเด็กวัยรุ่นที่ชอบเล่นยา ใช้ชีวิตไร้สาระแบบนี้ก็น่าจะง่ายกว่าที่ต้องไปสู้กับชีวิตในการงานข้างนอก
ดังนั้น การที่แม่ลงโทษลูกคงจะไม่ช่วยอะไรมากนัก
ส่วนเพื่อนๆ น้อง เค้าน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องออกไปหางานบ้าง
เพราะหลายคนไปทำงานแล้ว
แต่พวกนี้ (บางคนดันไปเล่นยาอีกด้วย และดูไม่ค่อยสนใจน้อง
พวกวัยรุ่นข้างในต่างชอบไปหาสู่กันที่บ้านของกันและกัน แต่ผมไม่เห็นเค้าชวนน้องไปร่วมนั่งเล่นกับเค้าสักที
น้องไม่มีมอไซค์ เค้าต้องพึ่งคนใจบุญคนอื่นช่วยถ้าจะออกไปข้างนอก
แต่ผมไม่เคยเห็นเพื่อนเค้าชวนน้องออกไปเที่ยวเช่นกัน
ผมถึงจะไม่คาดว่าอะไรมากกับพวกนี้
พอดีน้องมีเพื่อนสองคนที่ชีวิตกำลังเปลี่ยนไปตอนนี้
หนึ่งคนเป็นรุ่นน้องที่ประกาศว่าจะเลิกเล่นยา
อีกคนหนึ่งเพิ่งออกจากคุกกำลังหาหนทางชีวิตใหม่
พอเจอเพื่อนเริ่มสร้างตัวเองใหม่แบบนี้
น้องจะโดนกระทบอะไรบ้างมั้ย
ผมจะเล่าเรื่องสองคนนี้ให้สั้นๆ  
-
ธีร์มีเพื่อนรุ่นน้องชื่อ ต้น (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี
เป็นเพื่อนบ้านคุยกันทุกวัน ที่เราพูดถึงข้างบนนี้
ปกติก็เล่นยากันเป็นประจำด้วย
พ่อของน้องต้น ชื่อ เต้ เป็นเพื่อนแม่ธีร์ ที่ช่วยเค้าพาธีร์ไปบำบัดตัววันนั้นอย่างที่เรากล่าวกันไปแล้ว
ต้นเล่นยา เค โดยพ่อแม่รับรู้และไม่ได้ว่าอะไรมาก 
แต่ว่าเค้าให้ต้นเล่นที่บ้านเพื่อนข้างในเท่านั้น ห้ามแอบไปเล่นที่โต๊ะแปด
ซึ่งน้องก็ทำตามที่พ่อแม่ลงกฏไว้
และเมื่อเร็วๆนี้ น้องต้นและครอบครัวเค้า ตกลงว่าเค้าน่าจะเลิกเล่นยาได้แล้ว
ในปีหน้าน้องตั้งแผนไว้ว่าจะไปเรียนระดับมหาลัย
เค้ากลัวว่าถ้าจะเล่นยาต่อน้องต้นจะเรียนไม่ไหว
พ่อแม่เลยพาต้นไปหาหมอแถวบ้านเรา
หมอจัดยาเม็ดช่วยบรรเทาอาการขาดยาเสพให้
จากนั้นต้นบอกเพื่อนๆว่าตั้งใจเลิกเล่นแล้ว
'ผมเริ่มกินยาหมอแล้ว ยังไม่มีอาการขาดยานะไมเคิล' เค้าบอกผมเมื่อวันก่อน 
แต่เผื่อน้องจะเผลอหลุดกลับไปเล่นอีก
พ่อยังพาเค้าไปตรวจฉี่ที่คลีนิคบ่อยๆ

now, see here

โพส์ตเด่น

20plus club (Postscript 3, final)

แคปชั่นก๊อปจากเน็ต: โรงพยาบาลตำรวจบริเวณสี่ แยกราชประสงค์ ปี พ.ศ. 2542 แจกเสร็จ น้องก็นั่งรอจ่ายบิลอยู่ข้างๆผม มือน้องสั่น เหงื่อออกเต็มหน้า...

โพส์ตนิยม