Friday, 11 March 2022
ปิดสวิทช์ไม่เป็น
ที่ตั้งอยู่หัวเตียง
เมื่อเช้าก็เช่นกัน มีเสียงผู้ชายสองคนพูดคุยกันเรื่องอะไรไม่รู้
จนผมเริ่มสงสัย
เลยหยิบเอามาฟังดู ก็ได้ยินเสียงแว่วๆอีก
แต่นี่ไม่ไช่เสียงนอกบ้านที่เล็ดลอดเข้าทางหน้าต่าง
หรือเสียง ทีวี หรอก
เพราะเราพึ่งตื่นมา ยังมืดๆอยู่เลยประมาณตีห้า
ผมยังยืนจับเครื่องอยู่จนเผลอนึกว่า
เราเกิดอาการหูแว่วรึป่าว
เป็นโรคอารมณ์สองขั้วหรือโรคไบโพลาร์
เหมือนเราเป็นคนบ้าซะแล้ว
และมีคนตัวเล็กๆแอบนั่งบนไหล่ ค่อยเป่าหูให้ผมไปก่อเรื่องร้ายแก่โลก
เอ๊ะ ใครหว่า
พอเอาเครื่องไปแนบติตหู อ้อ เป็นเสียงวิทยุนั้นเอง
ที่น่าจะลืมเปิดทิ้งไว้นานแล้วโดยเราไม่รู้ตัว
เริ่มเมื่อไรกันแน่
ผมฟังวิทยุนี้ประจำในช่วงการเลือกตั้งสมัยที่แล้ว
ที่ขึ้น วันที่ 29 เดือนมีนา 2019
ตั้งแต่นั้นไม่ค่อยได้รับฟัง
นานๆเปิดฟังที
ครั้งล่าสุดน่าจะเป็นปีที่แล้วมั้ง
เพราะไอ้ปุมเปิดปิดวิทยุแข็งทื้อ ขยับยาก
กดถี่ๆ ก็ไม่ยอมปิดสักที
เลยไม่จงใจอยากจะเปิดฟังใช้อีก
แต่นี่ผ่านไป1ปี แล้วที่เสียงยังออกมาทั้งวัน ทั้งคืน ไม่มีวักเว้นเลย
ผมไม่ผิดสังเกตุอะไรเลย
เป็นไปได้ยังไง
ผมเคยได้ยินคนพูดในห้องนอนมาก่อนก็จริง
แต่เสียงเบาจนเราคิดเผินว่าน่าจะเป็นแมลงบินว่อนข้างนอก
แต่เรายังต้องถามตัวเอง ทำไมไม่สังเกตุให้ดีกว่านี้บ้าง
เครื่องเปิดทิ้งแบบนี้จะดูดไฟฟ้าบ้านโดยผมไม่รู้เรื่อง
ทุกเช้าผมรีบลุกขึ้น ไม่เถลไถล เพราะต้องแย่งชิงเข้าห้องน้ำก่อนแฟนจะตื่นเข้ามาใช้เอง
เลยไม่มีโอกาศได้ยินเสียงอะไรมาก
และพอเข้านอน ทีวีที่ห้องรับแขกนอกห้องนอนเรา ก็ยังเปิดเบาๆจนกลบเสียงวิทยุหัวเตียงเรา
โอเค
ที่นี้เราต้องสู้กับตัววิทยุอีกรอบ
จัดการกับมันให้ดี
ห้ามเสียงเล็ดลอดออกมาเด็ดขาด
และที่สำคัญห้ามให้ little green men วางแผนร้ายเข้ามาหัวผมเวลานอนหลับอีก
สุดท้ายก็กดปุ่มปิดเสียงได้สนิท
ไม่อยากเจอเซอร์ไพรส์ตอนเช้าอีก
หลังจากที่เราจับความโง่ตัวเอง คือปิดสวิทช์ไม่เป็น
และปล่อยคนในเครื่องคุยกับเราเป็นนาน
โดยแก้ที่ตัววิทยุนั้นเอง
ผมวางเครื่องกลับไว้ที่เดิม
คิดดู เราเปลืองค่าไฟห้องนอนเราเป็นปี
แก้เสร็จแล้วค่าไฟฟ้าที่ห้องจะลดลงบ้างมั้ย
ต้องลุ้นๆดู
Sunday, 18 October 2020
Maskless in Bangkok (part 6, final)
![]() |
VOA asks: หน้ากากสำหรับวิถีชีวิตใหม่ แต่ทำไมบางคนไม่อยากทำตาม? Why indeed! |
ไม่ใช่หาที่ลบโดยปิดบ้าน ปิดเศรษฐกิจ ปิดท้องฟ้า
ในช่วงนี่ที่เรายังรอการพัฒนาวั
ยังไงก็ตามผู้เชียวชาญบอกว่า วัคซีนจะไม่สามารถรักษาได้อย่
เพราะผลวัคซีนอาจจะเข้าไม่ทั่
สมัยนี้ยังมีหลายคนต่อต้านการฉี
แต่ในมุมบวก อัตราคนตายจากไวรัสได้
และผู้ที่เสียชีวิตจากไวรัสนี้ ส่วนใหญ่มีอายุมากและมีโรคอื่
ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์บางคนเปลี่
อย่างเมื่อก่อน และบังคับให้คนอื่น ๆ ใช้ชีวิตปกติเพื่อจะเกิดความ herd
immunity
-
ผ่านไปแล้วหลายเดือนตั้งแต่
ผมปล่อยตัวหน่อย
ในการรับมือและ ปฏิบัติตัวกับ lockdown นั้น
เพราะไม่ค่อยมั่นใจในระบบนี้เป็
ถ้าฉันยังสวมหน้ากากอนามัย ก็เท่ากับว่าผมซื้อตั๋วเข้าสู่
ในสายตาพวกนั้นที่ยังเคร่งเครี
ผู้คนจะมองว่าฉันเป็นคนที่คล้
ผมจะยอมใจทำเพื่อเค้าเท่านั้น
ฉันจะทำเพื่อรณรงค์ต่อต้านไวรัส แต่ใน space ส่วนตัวก็ยังคงหาโอกาสไม่สวมใส่
(เช่นเวลาอยู่คนเดียว)
และค่อยส่งสัญญาณให้เพื่
จุดยืนของฉันปักหลักอยู่ที่
เราต้องเริ่มซ่อมแซมและช่วยมั
เพราะไวรัสไม่แรงอย่างเท่าที่
Maskless in Bangkok (part 5)
![]() |
Line-up at the local 7-11 |
สรุปแล้ว นักการเมืองพวกนี้ แสดงให้เห็นถึงการขาดความเป็นผู้
เค้าประเมินความเสียหายต่
ไม่ยอมมีนโยบายต่อสู้ที่สมดุ
เศรษฐกิจอาจจะตกต่ำลงไปเรื่
เพราะการค้นพบและการพัฒนาวัคซี
และวัคซีนอาจไม่สามารถรักษาได้
นิวซีแลนด์ อดีตประเทศบ้านอาศัยผม กำหนดให้มีการปิดกั้นอย่างเข้
แต่ไวรัสก็ยังกลับมาโจมตี
ชาวบ้านที่นั้น ก็เริ่มเสียความมั่นใจในสภาวะ lockdown แล้ว
-
ในเมืองไทยตอนนั้น
ขณะทางรัฐยังบังคับให้คนกักตั
เช่น คุณอาจตรวจอุณหภูมิตัวเองที่ 7-11 แต่เมื่อเข้าไปข้างในพบว่าต้
เหมือนปลาซาร์ดีน social distancing หายไปไหน
หรือคุณจะอุตส่าฝากทิ้งชื่อ กับที่อยู่ เอาใว้ที่หน้าห้าง (ซึ่งต้องใช้เวลา)
แต่พอเดินเข้าไปก็เห็นทั้งร้
เพราะคนยังไม่กล้าออกไปข้างนอก
แค่นี่ยังไม่พอ เราจะยังเจอพวกดื้อรั้นไม่
-
ต่อจากนั้น ไวรัสเกิดแพร่ระบาดเข้าสังคมเป็
อัตราผู้เสียชีวิตก็น้อยกว่าครั้
แต่ประเทศขี้อวดๆ อย่างนิวซีแลนด์ ที่รีบประกาศก่อนหน้านี้ว่าได้
เนื่องจากต้องกำหนดมาตรการควบคุ
พวกนักกานเมืองและนักวิ
เพราะประชาชนเกิดฉลาดกว่าเมื่
หลังจากถูกนักวิทยาศาสตร์และนั
ต่อจากนี้ถ้าทางรัฐจะให้ ปชช เข้า lockdown อีก
ไม่มีใครจะสนใจหรอก
พวกเขาได้สร้างภูมิคุ้มกันต่อต้
ในแบบเดียวกับที่ร่างกายของผู้
![]() |
Lucky still to have jobs... |
ยังที่ว่าไปแล้ว ปัญหาไวรัสกลายเป็นประเด็
เพราะผลกระทบไม่สม่ำเสมอและไม่
พวก progressives โต้แย้งว่าไวรัสดีดตัวขึ้นเนื่
lockdown เร็วเกินไปและพวกเค้าต้องการดึ
ในขณะพรรค conservatives เน้นการฟื้นตัวเศรษฐกิจก่อน
เนื่องจากว่า lockdown ไม่ได้ตอบโจทย์
และที่จริงแล้วเป็นวิธีการแก้
พวกเค้าเชียร์มาตรการแบบปานกลาง ไม่ใช่เข้มข้น
เค้าหนุนแนวทางแก้ที่มีความยั่
เค้าผลักดันนักวิทยาศาสตร์ให้
เพื่อให้เศรษฐกิจจะเปิดอีกครั้ง
Maskless in Bangkok (part 4)
![]() |
Saving the world... |
Maskless in Bangkok (Part 3)
![]() |
They're watching you... |
ในช่วงแรกเราเห็นคนเชื่อฟังดี
กลัวจนบางคนไม่อยากออกไปสู่
เคสดังๆ ที่เรานึกออกได้ทันที่ คือ โจ ไบเดน
คู่ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
ซึ่งเค้าใช้เวลาสามสี่เดือนมานี้
รัฐเดลาแวร์ ไม่ออกไปหาผู้เลือกตั้งเลย
ในขณะที่ปธน โดนัลด์ ทรัมป์ ดันหาโอกาสไปตั้งการชุมนุ
ทำแบบกล้าๆ แถมไม่ใส่แมสด้วย
นักการเมืองคู่แข่งคนนี้ก็
-
ขอย้อนเวลาไปนิดหนึ่ง
ตอนแรกผมว่านะ ที่เมืองไทยพวกเรากลัวจนแทบบ้
เริ่มจากกลัวแบบเบาๆเป็นหนัก ฝ่ายรัฐได้สั่งให้ ปชช
ระงับกิจจกรรมข้างนอกเกือบทั้
ที่ต้องปิดหมด
แต่มาตรการหนักสุดคือ เลิกรับเที่ยวบิ
คือปิดประเทศไปเลย ไม่มีใครบินออก และแทบจะไม่มีใครได้อนุญาตบิ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สว่นใหญ่มาจากการท่องเที่ยวนั้
ห้ามใครเข้าออกจะเหลืออะไรเหล้า
-
มาตรการเข้มงวดแบบนี้ ทางนักวิจัยวิทยาศาสตร์แนะนำเอง
เพื่อดึงเศรษฐกิจเข้าสภาวะล๊
เราไม่เห็นคนคัดค้
แม้ว่าผลที่ออกมาก็คื
แต่พอเวลาผ่านไปแล้วหลายเดือน
คนเริ่มดื้อไม่ยอมรับมาตรการข่
ในขณะ ปชช คนเริ่มออกมาประท้วงต่อต้าน lockdown เป็นหลายประเทศ
จนนักการเมืองเกิดหวั่นผวาใจว่
เพราะข้อปฎิบัติในการล็อกดาวน์
แต่ไวรัสเนี่ย ยังไม่หายไปสักที
สังคมที่ผ่านประสบการณ์แย่
จากเมื่อก่อน ที่คนทำตามคำสั่งทางรัฐโดยดี
เพราะเราไม่รู้เรื่องโรคนี้ และคาดหวังว่า ผู้เชี่ยวชาญจะรู้มากกว่า
พูดง่ายๆ เราเอาความกลัวเป็นหลัก
แต่ต่อจากนั้นเราเกิดสงสัยว่า เอาเข้าจริง
เพราะเราเห็นคนโดนตกงานและเงิ
แต่ไวรัสยังกระจายไปทั่ว ไม่ลดละสักที
ตอนนี้เราถือได้ว่า ผ่านพ้นในช่วงที่จะเชื่อง่ายๆ โง่ๆ เรียบร้อยแล้ว
ครั้งหน้าพวกเราจะไม่โง่ขนาดนั้
ที่นี้ถึงเราจะกลัวนิดๆ แต่เราก็ยังกล้าต่อต้
Maskless in Bangkok (part 2)
![]() |
Joining the crowd...or not |
และแฟนไม่จำเป็นต้องเตือนผมอี
แต่พูดถึงแมสนะ ผมไม่รู้ว่ามันจะช่วยป้องกันตั
งานวิจัยวิทยาศาสตร์ขัดแย้งกั
แต่อย่างน้อยผู้คนรอบตัวเรา จะสบายใจขึ้นถ้าเห็นว่
ถ้ามองในมุมใจกว้างๆ เราต้องทำตามมาตรการที่ทาง จนท ลงประกาศใว้ คือใส่แมสใว้
ถ้าอยากเข้าสังคมในช่วงโควิ
-
ตอนนี้เราต้องเตรียมตั
อย่างที่พวกผู้นำประเทศบอก
การใส่แมสก็เป็นหนึ่งในข้อนั้
แต่ระบบ new normal ที่ว่านี้ มันคืออะไรกันแน่เนอะ (เดี๋ยวจะคุยกัน)
และสังคมจะยอมดำเนินการจริงไหม
ผมว่านะ มันสุดแล้วแต่ละคน
เพราะบางคนไม่ยอม แล้วทางรัฐคงบังคับใจใครไม่ได้
ถ้าเป็นอย่างนั้นระบบ new normal ร่วมถึงมาตรการ lockdown ด้วยนั้นจะเป็น cure-all ไม่ได้หรอก
-
เมื่อทางรัฐลงมาตรการล๊อกดาวน์
ไม่ทำมาหากินนอกบ้าน ไม่คลุกคลีกับใคร
แล้วถ้าจำเป็นเจอใครต้องทิ้
เป็นวิธีการซื้อเวลา รอให้ไวรั
ระบบสุดขีดแบบนี่ไม่ค่อยได้
ปัญหาหลักก็คือมาตรการกว้างเกิ
ผลกระทบต่อสังคมจะดู
คนถึงดื้อไง
ยิ่งสั่งให้เราปฏิบัตินานมากขึ้
ถ้าคนไม่ยอมรับข้อพึงปฏิบัตินี้ ทางรัฐจะทำยังไง
เพราะขู่บังคับใจทุกคนไม่ได้
Maskless in Bangkok (part 1)
Corona-virus pudding a hit in Prague
'พกแมสมาด้วยรึเปล่า' แฟนถามก่อนที่ผมจะเดิ
'ใส่สิ' ผมตอบ ผมรู้หน้าที่ตัวเองดีแล้ว
เราต้องใส่เพื่อป้องกันทั้งตั
เมื่อ 4-5 เดือนที่แล้ว ตอนที่โควิดกำลังระบาดหนักทั่
เค้ามักจะตักเตือนผมตลอด ให้ใส่แมสเพื่อป้องการเชื้อไวรั
นั้นใว้
จนผมรู้สึกหงุดหงิดรวมกับอารมณ์
มีวันหนึ่งแฟนเจอผมปั่นจั
ผมดึงแมสลงให้คล้องคอสบายๆ โดยไม่ได้คิดจะเจอเชื้อโรค
และแน่นอนไม่ได้คิดว่
แฟนออกไปซื้อของและกำลังกลับห้
แต่ปิดปากไว้ไม่ได้พูดว่
เมื่อผมเดินเข้าประตูห้อง โอ้โห ก็โดนด่าเต็มแรงนะคับไม่ต้องห่
'ทำไมไม่ยอมใส่ อยากติดเชื้อเหรอมืง' เค้าว่ายังนี้
ที่จริงแล้วผมน่าจะสวมใส่ให้ปิ
แต่ถ้าผมใส่มิดชิดขนาดนั้
เรียกว่าเราใส่ตามพิธีแล้วกัน แม้รู้ทั้งรู้ว่าต้องทำอะไรแต่
แต่วันนั้นผมรู้ด้วยว่า เราไม่น่าจะเจอใครข้างนอก
ถ้าสมมุติว่าเราออกไปข้างนอกห้
แต่ถ้าไม่มีคน ก็จะดื้อๆหน่อย
-
ในช่วงแรกๆที่ไวรัสแพร่กระจาย
พวกนักวิทยาศาสตร์ไม่รู้
เพราะไวรัสตัวนี้เป็นสายพันธุ์
และถ้าเราออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้เจอใคร เรายังต้องใส่แมสอยู่รึป่าว
เรายังไม่รู้ว่าจะติดจากการสู
เชื้อตัวฉลาดนี้
จะลอยตัวในอากาศหาโอกาสติดเหยื่
ตอนนั้นไม่มีใครรู้ (และตอนนี้ยังไม่แน่ใจอีก)
หรือว่า เราต้องไปสัมผัสกับคนที่ติดไวรั
โดยส่วนตัวเรามักจะเชื่อในมุมนี้
คือเวลาใกล้คน ก็ให้ใส่แมสเพื่อป้องกันใว้ก่อน
แต่ถ้าอยู่คนเดียวตัวลำพัง ไม่ต้องใส่ก็ได้ (ว่าแต่ถ้าลมพัดมาแรงๆ
ห้ามอ้าปากกว้างๆสูดอากาศเต็มที่
now, see here
Wednesday, 14 October 2020
The invisible plane
![]() |
The invisible car in Die Another Day |
ผมกำลังดันจักรยานเข้าลิฟท์
'ไม่ใช่หรอกลูก' ผมตอบอย่างเคร่งขรึมหน่อย 'ผมเป็นนักข่าวต่างหาก'
น้องเบิกตาใหญ่โต ผมแอบคิดว่าเค้าน่าจะประทับใจมั้
ม.จุฬา ก็ตาม
คนไทยที่ถามผมแนวนี้ และได้ยินว่าผมเป็นนักข่าว มักจะคิดเสมอว่า เราทำงานลงภาคสนามลุยหาข่
อันตรายอย่างน้องๆ นักข่าว CNN ที่ต้องค่อยหลบลูกกระสุนในย่
แต่ไม่นะคับ น้องไม่ได้คิดแบบนั้น
'อ๋อ ผมคิดว่าป๋าน่าจะมีรถรถยนต์ส่
ฟังแล้วเหมือนน้องตอบกวนตีน แต่ไม่ใช่ น้องอายแทนผมเฉยๆ ที่ชอบเข็นรถจักรยานเก่
'บางครั้งมันไม่จำเป็นนะ' ผมรีบตอบแซงพลางคิดว่าเราต้องรั
'ผมอาจจะไม่มีรถหรูหราก็จริง แต่ผมมีเครื่องบินส่วนตัวจอดไว้
'เพียงแต่ว่า แกคงไม่เคยเห็นลำนี้มาก่อน เพราะเป็นเครื่องบินอำพรางตัว
'มีความสามารถพิเศษในตัวนะน้อง เชื่อพี่เถอะ' ผมว่าต่อ
'ผมมีปุ่มไว้กดให้ลำนี้
ของ james bond ในหนัง die another day ที่พระเอก pearce brosnan เล่นเป็นครั้งสุดท้ายก่
'เวลาเค้าไม่อยากให้ผู้ร้ายเห็
น้องดูกึ่งเชื่อ กึ่งไม่เชื่อ แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร
เราจะรอดูว่าเค้าจะว่ายังไง คงจะว่าอะไรไม่ได้แล้วในเมื่
จากนัั้นผมกำลังอธิบายว่า ลักษณะพิเศษของรถแบบนี้จะช่
แต่ประตูลิฟท์เปฺิดออกมาพอดี ต่างคนต่างต้องไปคนละที่กัน
เราเลยพลาดโอกาสพาน้องไป
แต่ไม่เป็นอะไร
งานนี้ใว้เจอกันครั้งหน้
Monday, 18 November 2019
job at the 7-11, back to rehab (14, final)
น้องธีร์กับน้องชายพักอยู่ที่บ้าน |
![]() |
หาที่แจก: ข้าวของทุกอย่างในชีวิตน้องตั้ |
‘ขอพบเจอแต่ความดี ไม่มีทุกข์
รักเรา.. ต้องรักลูกเราด้วย’
น้องให้ผมจัดเลี้ยงเหล้า เหมือนที่เราเคยทำ ก่อนที่เค้าไปบำบัดตัว
'ชีวิตพวกเราเปลี่ยนไปแล้วนะธีร์ ผมเลิกกินเหล้า ไม่ค่อยไปหาใครๆในซอยด้วย พวกเราจะไม่รอนิ่งๅให้แกกลับบ้านหรอก ชีวิตต้องเดินหน้าไป’
ทุกวันนี้เราเห็นน้องเล่นเฟซบ่อย พยายามหาแฟนคบ
เราเห็นจากเฟซน้องด้วยว่า เพื่อนเค้าแวะไปหาน้องที่ห้อง
-
สิ่งของที่ผมเคยซื้อให้น้อง ในช่วงชีวิตย่ำแย่เค้า ร่วมถึงเสื้อผ้า ร้องเท้าและของใช้ ทุกวันนี้วางทิ้งไปอยู่ใต้โต๊ะทำงานผม ยังเก็บไว้ในถุงเดิมๆ ที่ผมหยิบเอาจากห้องวุฒิวันนั้น ผมเห็นถุงนี้ตลอดเพราะมันอยู่ข้างๆเท้า ผมเตะเขี่ยมันบ้าง นึกถึงเจ้าของบ้าง
job at the 7-11, back to rehab (13)
![]() |
บ้านพักที่ บ้านพึ่งสุข สถานบำบัดรอบที่สอง |
มีส่วนร่วมในชุมชนและยอมรับการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
ให้อภัยผู้อื่นในสิ่งที่เขาทำผิด
การขับออกจากกลุ่มสามารถกระทำได้ แต่ต้องทำโดยการพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน
เคารพระบบอาวุโส และลำดับขั้นในชุมชน
ขอพูดถึงเรื่องบ้านพึ่งสุขได้อีกนิดหนึ่งจากเว็บเค้า
ส่วนแม่ เค้าพร้อมรึยังที่ได้ใช้เวลากับลูกบ้างมั้ย
ไม่ต้องพาออกไปเที่ยวหรือวิ่งไล่ตามเวลาที่เสียไปก่อนหน้านี้หรอก
อดีตก็ผ่านไปแล้ว จะย้อนรอยกลับไปเจอมันอีกไม่ได้
แค่คุยกันดีๆ คุยกันบ่อยๆ และให้กำลังใจน้องด้วยก็พอ
แล้วพยายามนึกถึงลูกในแง่บวก ไม่ใช่แง่ลบ ได้มั้ย
ผมไม่อยากเห็นแม่กลับไปคิดเหมือนเมื่อก่อน
อย่าพึ่งสงสารตัวเองจนลูกจะกลายเป็นเด็กไม่น่ารักในมุมความคิดแม่
ตัวอย่างเช่น
หลายเดือนที่แล้ว แม่ไปหาพ่อเค้าที่ต่างจังหวัด
เค้าคงหยิบเรื่องธีร์ไปคุยกันนั้นแหละ
จากนั้นแม่ก็โพสคำแนะนำพ่อในเชิงว่า
แม่ใจแข็งกร้าวเกินไป เวรกรรมนั้นกลัวไปหาแม่และไปโจมตีลูกแทน ซึ่งเป็นจุดอ่อนในครอบครัวเรา’
อ้าว จะไปหมกหมุ่นเรื่องเวรกรรมทำไมนะแม่ ไม่เห็นช่วยอะไรเลย แค่เอาครอบครัวไปรอดถึงฝั่งก็ยากอยู่แล้ว แต่โดยภาพรวมแล้วแม่มีท่าทางว่าจะทำต่อให้ลูกดีขึ้น
job at the 7-11, back to rehab (12)
Therapeutic community is a participative, group-based approach to long-term mental illness, personality disorders and drug addiction. Those seeking rehabilitation from drug addiction live and work side-by-side with other recovering addicts, group leaders and staff for extended time periods. During that time, participants learn to abide by the rules and discipline of the group. By adapting to the level of proper and moral behavior demanded by the group, addicts gain back some of the life skills that are generally lost to addiction.
ตามมาเป็นภาษาไทย TC ผู้เป็นสมาชิกต้องเข้าชุมชนทดลอง โดยพักอยู่ด้วยกันเป็นหลายเดือนและอยู่ภายใต้การดูแลของทีมผู้คุม ซึ่งสถาบันนั้นจะกลายเป็นบ้านชั่วคราวที่แตกแยกออกจากสังคมจริง โดยผู้เป็นสมาชิกไม่ค่อยได้รับสิทธิ์ออกไปข้างนอก หรือรับข่าวจากสังคมเข้ามาด้วย
![]() |
บ้านพักที่ บ้านพึ่งสุข |
3. กำจัดพฤติกรรมต่อต้านสังคม
4. รู้จักทำงาน
5. มีทัศนคติที่ดีต่อสังคม และเพิ่มคุณค่าให้ตนเอง
2) ปฏิกิริยาสะท้อนกลับของสมาชิก (Use of Membership Feedback)
3) การเป็นแบบอย่างที่ดี (Use of Membership as Role Model)
4) วิธีที่ช่วยให้บุคคลเปลี่ยนแปลง (Use of Collective Formats for Guiding Individual Change)
5) การใช้กฎกติการ่วมกัน (Use of Shared Norms and Values)
6) โครงสร้างและระบบ (Use of Structure and Systems)
- การทำงานในชุมชนนั้นมีความหลากหลาย การทำงานจะเป็นแรงขับเคลื่อนเบื้องต้นในการสอนเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาตนเอง การเรียนรู้ไม่ได้เกิดจากทักษะในการฝึกฝนอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมถึงการปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ การให้การยอมรับนับถือคนที่เป็นผู้ดูแล และการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบต่อชุมชน ซึ่งจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถให้คนอื่นพึ่งพาได้
7) การสื่อสารแบบเปิด (Use of Open Communication)
8) การสร้างสัมพันธ์ภาพ (Use of Relationships)
นอกนั้นก็มีหลักปฏิบัติสำคัญที่ต้องมีไว้เสมอ (The Enduring Principles):
เอาใจใส่ต่อจิตใจและร่างกาย
การค้นหาความหมายของพฤติกรรรม
การท้าทายการตักเตือนต้องทำด้วยความรัก
โพส์ตเด่น
ปิดสวิทช์ไม่เป็น
สวัสดีตอนเช้าจากวิทยุ! ได้ยินเสียงพูดเบาๆทุกครั้งที่เดินไปใกล้เครื่องวิทยุนาฬิกา ที่ตั้งอยู่หัวเตียง เมื่อเช้าก็เช่นกัน มีเสียงผู้ชายสองคน...
โพส์ตนิยม
-
สวัสดีตอนเช้าจากวิทยุ! ได้ยินเสียงพูดเบาๆทุกครั้งที่เดินไปใกล้เครื่องวิทยุนาฬิกา ที่ตั้งอยู่หัวเตียง เมื่อเช้าก็เช่นกัน มีเสียงผู้ชายสองคน...
-
ป็อป เป็นคนง่ายๆ ไม่ได้คิดอะไรกับใคร เค้ายิัมสวย ตาโตน่าเศร้า มีอัธยาศัยดี ในวันงานฌาปนกิจศพน้องป๊อป มีพิธีกรอ่านสคริปที่ครอบครัวเค้า...