Wednesday, 27 September 2023

20plus club (10)

Christchurch Cathedral ก่อนแผ่นดินไหว 2554 ทำให้เสียหาย

จะว่าไปแล้ว ปกติเฌอวอนมักจะปฏิเสธเสมอถ้าผมจะขอเลิกคบกับเค้า

เค้ากลัวว่าถ้าโดนทิ้งไปจะไม่มีเงิน และไม่มีใครดูแล เพราะเค้าเริ่มจะแก่ตัวแล้ว

แต่หลังจากที่เฌอวอนแอบไปมีกิ๊ก เค้าก็เปลี่ยนใจทันที ยินดีที่ได้แยกทางกันด้วย

เค้ายังปิดบังความจริงที่ได้ไปพบเจอกับคนใหม่

และพยายามไถเงินจากผมไป เป็นค่าขอเลิกคบ

เท่ากับว่าถ้าผมถ้าอยากได้เสรีภาพจริง ผมต้องจ่ายค่าชดเชยเค้า

แฟนใหม่ของเธอ แฮงค์ แน่นอนว่ามีเงินซุกซ่อนอยู่บ้าง

แต่เฌอวอนหวังว่า จะโน้มน้าวใจให้ผมออกเงินให้เค้าด้วย ในฐานะที่ผมเป็นฝ่ายขอเลิกเค้าก่อน

เค้ารู้ว่า ผมยังเป็นห่วงเค้า และรู้สึกผิดที่ขอเลิกลากัน

ผมทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นที่เค้าแอบไปมีกิ๊กอยู่แล้วไว้ก่อนหน้านี้ (และต้องรออีกหลายอาทิตย์กว่าเค้ายอมเปิดเผยความจริงเอง)

ก่อนที่เราแยกทางกันนั้น เค้าเลยเล่นบทบาททำตัวน่าสงสาร ว่าผมกำลังจะทิ้งเค้าอย่างโหดร้ายโดยไม่สนใจใยดีเพื่อจะเรียกร้องความเห็นใจให้กับตัวเธอ เพื่อที่จะให้ได้เงินนั้นเอง

ผมไม่รู้ว่าแฮงค์มีส่วนเกี่ยวข้องในการวางแผนนี้หรือไม่

แต่มันเริ่มจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างเมื่อเฌอวอนขอให้ผมจ้างทนายความเพื่อจะร่างข้อตกลงแบ่งทรัพสินส่วนร่วมที่มีมาด้วยกัน

เค้าต้องการให้ทนายความคุมครองและกำหนดจัดการแบ่งทรัพย์สินในบ้าน รถยนต์ และรายได้จากการขายบ้านของเราด้วย

เฌอวอนเรียกร้องส่วนแบ่งที่ใหญ่มาก เท่ากับ 70% ของทรัพย์สินทั้งหมด

แม้ว่าผมเป็นเสาหลักจากการหาเงินนี้

ผมทำงาน full-time ตั้งแต่จบการศึกษาและเข้าวงการงานสื่อสาร

แต่เฌอวอนเลือกว่าจะทำงานช่วยผมแค่นิดเดียวเองเป็นหลายปี
 
เค้าคงวางแผนใช้อุบายสกปรกแบบนี้และ  โดยอ้างอิงจากความรู้สึกผิดของผมที่เป็นฝ่ายขอเลิกลากัน

แต่หนักกว่านั้น  เฌอวอนยังข่มขู่ผมอีกด้วยว่า ถ้าผมไม่ยอมจ่ายตามที่เรียกร้อง เค้าจะขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องที่น่าอับอายในอดีตผมและเปิดเผยให้ทุกคนรู้
การข้อตกลงระวางเรา

--
ผมยอมจจ้างทนายความเพื่อความสบายใจของแฟน

เราจ้างทนายจากบริษัทกฎหมายดังๆ ที่ตีราคาแพงที่สุดในเมือง สองบริษัท (เวลาปรึกษาทนาย ผู้เป็นคู่ที่กำลังเลิกลากันต้องจ้างทนายความคนละบริษัทกัน)

เวลาเรานัดคุยกับทนายกัน เฌอวอนชอบอ้างว่า หลังแยกทางกันเสร็จ เค้าจะไม่มีใครดูแล ผมต้องเห็นใจเค้าบ้าง และโอนทรัพย์สินไปให้เค้า

แต่ทนายผมบอกชัดเจนว่า ถึงจะตกลงแบ่งทรัพย์สินกันและลงลายเซ็นชื่อกันตามที่เฌอวอนต้องการ

กฎหมายจะไม่มีบังคับใช้อยู่ดี เพราะเราไม่ได้แต่งงานกันจริงๆให้ถูกต้องตามกฎหมาย

เอาเข้าจริงๆเราไม่จำเป็นที่จะต้องให้อะไรกับฝ่ายเค้าสักนิดก็ได้ เลิกก็เลิกกันไปเลย เพราะกฎหมายยังไม่มีรองรับในกรณีแบบนี้

(ในปี 2002 รัฐสภา New Zealand ให้ความเห็นชอบกฎหมายที่จัดให้ de facto couples หรือคู่รักโดยพฤตินัย ได้รับสิทธิแบ่งทรัพย์สินที่เท่าเทียมกันถ้าเลิกกัน ดังคู่แต่งงานกันจริง
แต่ผมเลิกคบกับเฌอวอนก่อนหน้านั้นแล้ว)

ถ้าเราแต่งงานกันจริง เราจะต้องแบ่งทรัพย์สิน 50/50 แต่สำหรับเราตอนนั้นไม่ใช่ เราแค่เป็นคู่รักแบบ de facto couple

แต่ถึงจะเป็นคู่รัก de facto แค่เท่านั้น แต่เฌอวอนดันจะเอาไปตั้ง 70%เลย

ทนายผมเตือนอีกว่า แม้ว่าข้อตกลงอาจไม่มีบังคับใช้ มันก็ยังผูกพันการกระทำของเราไว้ เมื่อทนายตามหน้าที่เค้า เริ่มติดต่อกับฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรา เช่น ธนาคารของผม บริษัทที่ถูกฝากขายบ้านของเรา

ข้อเรียกร้องของเฌอวอน ในช่วงแรกพูดคุยกันได้ไม่ยุติธรรมเลย

เค้าอยากให้ผมยกทรัพย์สินในบ้านทั้งหมดเช่น พวกเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งรถยนต์ เศษส่วนครึ่งหนึ่งของเงินบำนาญของผม แม้กระทั่งรายได้ทั้งหมดจากการขายบ้าน

โดยในการแลกสิทธิ์ความเป็นอิสระของซึ่งกันและกัน และผมจะได้เดินจากไปแบบโดยไม่ต้องจ่ายค่าจำนองต่อ (ตอนนั้นบ้านยังไม่ได้ขาย)

เฌอวอนบอกว่าจะรับผิดชอบเองถ้าเราตกลงกันได้

ทนายผมถึงแนะนำไม่ให้ลงนามเซ็นชื่อ

'ถึงจะบังคับใช้ไม่ได้ ยังไงๆ ร่างนี้ก็ไม่แฟร์ เค้าเรียก 70% ได้ยังไง ฉันแนะไมเคิลไม่จ่ายเงินหรือยกอะไรให้ฝ่ายเค้าที่เกินกว่าครึ่งหนึ่ง' ทนายผมว่ายังนี้

หลังจากเราแยกทางกันเสร็จและผมกำลังเตรียมตัวบินไปต่างประเทศ ทนายความผมแนะนำให้เราติตต่อกับทนายความอีกฝ่าย และแก้ไขข้อตกลงอีกรอบหนึ่ง เพื่อให้มีความสมดุล

เป็นจุดพลิกผันโดยสินเชิง
ทนายความของผมดูพอใจมากขึ้นแบบเงียบ ๆ

โดยเฌอวอนยอมถอย และตกลงว่า เค้าต้องจ่ายค่าส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของค่าทรัพย์สินในบ้าน บวกกับค่ารถ ค่าจำนองและค่าบำรุงรักษาบ้านให้ผมด้วย

เป็นส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งเช่นกัน ยอดรวมที่ต้องชำระคือ $3,500 โดยเงินจำนวนดังกล่าวถูกหักออกจากส่วนแบ่งของรายได้สุทธิของเค้า

หลังจากเราส่งร่างข้อตกลงกัน ผ่านมือทนายความทั้งสองฝ่ายเป็นหลายรอบ

เราได้ลงนามลายเซ็นเรียบร้อย โดยเฌอวอนต้องยินยอมข้อแก้ไขของทนายความของเรา

ในเดือนกรกฎาคม 2000 พอดีบ้านเราถูกขายไปเรียบร้อยแล้วด้วย

อาทิตย์ก่อนที่ผมจะบินออกไป ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2000 ทนายความของผม จากดันแคน คอตเทอริลล์ ได้เขียนสรุปความก้าวหน้าในการเจรจากับทนายความของเฌอวอน (ดูจากรูป)

ผมรู้สึกถึงโทนเสียงของความพอใจอย่างเงียบ ๆ ในการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงที่นักเจรจาผู้มีฝีมือเหล่านี้สามารถดึงออกมาจากอีกฝ่าย ซึ่งในสภาพที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดของผมที่ยังค้างอยู่  ผมคงไม่สามารถทำได้เอง

กลยุทธ์ของเฌอวอนในการจ้างทนายความแพงๆ ไม่ประสบความสำเร็จ

มันย้อนกลับไปทำร้ายกับตัวเค้าเอง

now, see here

No comments:

Post a Comment

เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...

โพส์ตเด่น

Blast from the past (part 1)

Jack's Point golf club, with the Remarkables range "คุณเคยมาที่นี่เมื่อก่อนนี้," ผู้จัดการร้านอาหารกล่าวอย่ างเป็นนัย ร้านอาหา...

โพส์ตนิยม