Saturday, 23 September 2023

20plus club (4)

The Christchurch Press อาคารถูกรื้อถอนหลังแผ่นดินไหว 2554 ทำให้เสียหาย

ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพ่อแม่เปลี่ยนตลอดไป

เค้าคงรู้สึกว่าผมปฏิเสธความรักจากเค้า

และเบือนหน้าไม่สนใจคำสั่งสอนอีกด้วย

เราต่อสู้กันในโหมดเอาหัวชนกำแพงไปอีกหลายปี

พ่อแม่พยายามดึงผมกลับไปที่อ้อมกอดเค้า แต่ผมกระด้างกระเดื่อง ยืนกรานว่าต้องคบกับเชอวอน ให้ได้

เค้าอยากให้ผมเจอสาวสวยรุ่นเดียวกัน วางแผนชีวิตและสร้างครอบครัวด้วยกันเหมือนที่คนธรรมดาเค้าทำกั

ผมดื้อรั้นไม่ยอมฟังจนครอบครัวแตกร้าวกัน

คุยกันเมื่อไรเราต้องทะเลาะกันทุกที

พ่อชอบสั่งสอนผมโดยเขียนจดหมายส่งทางไปรษณีย์

ผมได้รับ จม เค้าเมื่อไรผมจะทิ้งขว้างมันทันที เพราะเนื้อหามันฝังเจ็บลึกในใจ

ถ้าผมจำไม่ผิด เค้าเขียนในทำนองว่า

'ผมและแม่ผิดหวังมากกับการตัดสินใจของแก คิดตื้นๆแบบนี้อาจจะมีผลกระทบกับอนาคตอันไกลของแกด้วย ขอทบทวนอีกที'

ผมยอมรับเอง ผมเอาแต่ความสุขเข้าตัวเองตอนนั้น เป็นครั้งแรกที่เจอความรักในชีวิต น่าเสียดายที่คู่รักของเราต้องเป็นคนที่พ่อแม่ไม่ชอบใจเอาเสียเลย

เชอวอนช่วยให้กำลังใจ ถ้าพ่อแม่วางเครื่องกีดขวางไว้ข้างหน้าพวกเรา เราต้องเอาชนะอุปสรรคนั้นไปให้ได้

เค้าทุ่มเทยิ่งขึ้นกับการสู้แทนเรา เพราะถึงยังไงเรารักกัน คนอื่นไม่เกี่ยว

ความสัมพันธ์ระหว่างผมและพ่อแม่พังทลายต่อเนื่องจนผมรู้สึกว่า เราต้องเลือกระหว่างแฟนและครอบครัวเสียแล้ว

ทุกอย่างขาดสะบั้นไม่เป็นชิ้นดี แต่รู้มั้ยว่า ผมไม่รู้สึกเสียดายมากนักหรอก เราเอาแต่สู้อย่างเดียว

ผมกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวก็จริง แต่มีน้อยครั้งที่ผมยอมรับว่า ชีวิตคู่กับเชอวอน ไม่ใช่เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบหรอก

จะว่าไปแล้ว เราไม่ค่อยมีตังค์ อีกทั้งตามเวลาที่ผ่านไป ผมชักจะเบื่อกับชีวิตคู่แล้วด้วย แต่ไม่ยอมบอกใคร

มีครั้งหนึ่งผมทะเลาะกับพ่อแม่อย่างแรง จนผมคว่ำบาตรเลิกคุยกับทั้งครอบครัว ทั้งพ่อแม่และน้องๆ ด้วยเป็นเวลา 6 เดือน

ผมไม่รับโทรศัพท์จากใครทั้งสิ้น

แม่ไปหาผมที่ออฟฟิศเพื่อจะหาทางเคลียร์ปัญหา แต่ผมไม่ยอมเจอเค้า

ผมฝากบอก รปภ ว่าถ้าแม่ผมมาหา ห้ามปล่อยให้เค้าเข้าประตูมาเลย

now, see here

Friday, 22 September 2023

20plus club (3)

 ผมและแฟนสมัยเพิ่งเริ่มคบกันแรกๆ
ขอย้อนฉากกลับไปที่ New Zealand หน่อย

ก่อนจะบินมาถึงเมืองไทย รอบที่สอง ปี 2000 นั้น

ผมปิดม่านชีวิตคู่กับแฟนผู้หญิง ชื่อ เชอวอน ที่คบหากันมานานกว่า 15 ปี

ความสัมพันธ์ของเราเริ่มตั้งแต่ผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย ในปี 1984 ถ้าจำไม่ผิด

เชอวอนทำงานที่หอพักของ รร ของพ่อเรานี่เอง

รับหน้าที่เป็นพยาบาลคอยเฝ้าดูแลเด็กนักเรียนกินนอนจาก ตวจ ที่นอนพักอยู่ในช่วงเปิดเทอม

ตอนนั้นผมยังอยู่ที่บ้านพ่อแม่ ไม่มีประสบการณ์กับผู้หญิงมาก่อน

และได้เจอเชอวอนที่งานเลี้ยงเปิดเทอมปีไหม่ที่พ่อแม่จัดขึ้น

เค้ามางานที่บ้านเรา

และเชอวอนได้ร่วมสังสรรค์ด้วยกันในฐานะเป็นพนักงานทั่วไปไม่ต่างกับคนอื่น

แต่เราดันไปสบตากัน พูดคุยทะเล้นๆ หรือจีบกันยังไงเลยไม่รู้ ถึงปิ๊งกันได้

ผมเรียนจบที่ รร เดียวกัน แต่ในปีก่อนนั้น

ไม่น่าจะรู้จักกันมาก่อนเพราะผมเรียนที่ รร นั้นแค่ 18 เดือนก่อนจะจบการศึกษาใน รร นั้น

และเชอวอนเองเข้ารับตำแหน่งนี้ไม่นานเหมือนกัน

ที่จริงแล้วตอนที่เราเจอกันผมเข้าเรียนที่มหาลัยปี1แล้ว

แต่ขาดประสบการณ์ชีวิตและยังคิดเหมือนเด็กอยู่

ครอบครัวเราเพิ่งย้ายไปอาศัยอยู่ที่ New Zealand จากประเทศบ้านเกิด คือ
Australia ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านด้วยกัน ในปี 1982

เนื่องจากเชอวอนยังทำงานให้พ่อนั้น พอเราเริ่มคบหาดูใจเป็นแฟนกัน
เราต้องเป็นอีแอบ ไปไหนมาไหนที่เราต้องทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ ตลอด

เพราะไม่อยากให้พ่อรับรู้ว่าลูกชายคนโตเค้าดันไปคบกับลูกจ้างเค้า ที่อายุแก่กว่าเราตั้ง
15 ปี
เราไปเที่ยวกันที่เมือง นิวยอร์กซิตี้ ช่วงปลายปี 80s ฉันยังน่าเด็กอยูเลย


พ่อจำหน้าผู้หญิงคนนี้ได้ดี

พวกครูที่เค้าจ้าง ตามบุคลิกลักษณะดูออกเงียบเชย ไม่มีอะไรสะดุดตา

เทียบกันกับตัวเชอวอนไม่ได้ที่มีแสงแวววับดังดาวประกาย

เค้าชอบแต่งตัวฉูดฉาดพูดเสียงดัง เรียกความสนใจจากผู้ชาย

เราถึงสังเกตุเห็นตัวเค้าและชอบใจ

ตอนแรกเราลังเลใจนิดหน่อยเพราะรู้ว่าพ่อแม่ไม่น่าจะยอมใจให้คบกัน

แต่พอเราเริ่มรักกัน ผมมีความรูสึกว่าเราต้องเจอกันให้ได้

บ้านของพ่อแม่อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนที่พ่อทำงาน

แค่เดินผ่านโบสเล็กๆของ รร ที่ล้อมรอบไปด้วยสนามหญ้า ข้ามสะพานที่ทอดล้ำลำน้ำแคบๆ เราจะถึงหัวใจของ รร แล้ว


เดินต่อไป อีก 100 เมตรจะถึงหอพักของ รร ด้วย

เชอวอนและนักเรียนกินนอนก็อยู่ร่วมกันในตึกนี้แต่คนละที่กัน

เชอวอนพักอยู่ที่ห้องชั้นลอย ซึ่งยื่นออกเหนือจากห้องนอนของเด็กนักเรียน

เราทั้งคู่ชอบคบหากันแบบบ้าๆบอๆ สมัยเริ่มแรกที่รักกันนั้น

พอตอนมืดเข้าผมชอบแอบดอดไปหาเค้าที่ห้องพัก โดยเราต้องเดินหลบๆซ่อนๆ
ตัวตลอดเพราะกลัวว่าเด็กนักเรียนจะพบเห็นเข้า

ผมนอนแยกจากครอบครัวในแฟลตเล็กๆหลังบ้าน

บางคืนเชอวอนจะเล่นเสี่ยงเช่นกัน เดินหลบๆไปหาผมที่แฟลตนั้น
นั่งคุยกันสบายๆได้รู้จักกัน
(ผมไม่กล้าจับตัวเล่นเซ็กส์กับเค้าเป็นเวลาหลายเดือนเลย)

มีคืนหนึ่งที่พ่อเดินมาหาผมที่แฟลตโดยใช้ประตูข้างใน พอได้ยินพ่อเรียกชื่อผม

เชอวอนซึ่งพอดีแอบมาหาผมก่อน

ต้องวิ่งซ่อนตัวไว้ในห้องน้ำ และเก็บตัวเงียบๆ รอให้พ่อจะเดินกลับไปที่ตัวบ้าน

โชคดีที่ไม่ได้เจอกัน

ผ่านไป 6 เดือน

โป๊ะแตกเมื่อหัวหน้าหอพักของเชอวอนได้รู้ข่าวว่าเราแอบคบเป็นแฟนกัน

เค้ารีบไปแจ้งพ่อ

พ่อตกตะลึง ไม่เชื่อว่าลูกชายจะบ้าขนาดนั้น

พ่อแม่สงสัยว่าผมมีใจรักเพราะเห็นนิสัยเราเปลี่ยนไป
แต่ไม่เคยคิดว่าเราดันไปคบกับ ผู้หญิงอายุ 30-plus คนนี้

พ่อเรียก เชอวอน เข้าไปพบ และชวนเค้าให้ลาออกจาก รร ทันที
เพื่อจะช่วยรักษาชื่อเสียงของ รร

พ่อไม่อยากให้เรื่องเปิดโป้งแพร่หลาย เดี๋ยวจะกลายเป็น talk of the town

เชอวอนตกลงลาออกโดยไม่ได้รับค่าชดเชยอะไรมาก

แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นี้หรอก
เมื่อผมทำตัวทะลึ่งตั้งหน้าพาเค้าไปเจอพ่อแม่
เปิดตัวกันที่บ้านเราเป็นครั้งแรก

หัวใจเต้นแรงจนหน้าอกแถบจะแตก

ผมยืนยันว่าเรารักกันจริง และผมหมายหมั่นใจว่าจะย้ายออกจากบ้าน
และพาเชอวอนไปหาที่พักอยู่ร่วมกันข้างนอก

'เรายังรักกันและอยากคบกันต่อ เห็นด้วยหรือไม่ผมไม่แคร์' ผมกล้าพูดออกมา

พ่อแม่ตกตะลึงเป็นไก่ตาแตกซะอีก

'แกคิดผิดแล้ว แกพึ่งเริ่มต้นชีวิตจะไปอยู่กับผู้หญิงที่แก่กว่า 15
ปีทำไม 
ไม่เอาคนรุ่นเดียวกันเหรอ แกยังเป็นเด็กอยู่และแทบไม่รู้จักกัน' เค้าบอกผม

ผมยีนยันว่าจะคบกันต่อ

พ่อหันขวับไปหาเชอวอนแล้วถามว่า

'เอาลูกเราไปทำไม คุณจะให้อะไรกับเค้า อ้างว่ารักกันแต่ไม่มีงานทำ
คุณไปหาคนรุ่นเดียวกันไม่ได้เหรอ นิสัยคุณเท่ากับว่าคุณชอบกินเด็ก'

ผมจำไม่ได้ว่าเชอวอนตอบยังไงนอกจากว่า

'ไมเคิลเป็นคนใจดี'

นึกถึงแล้วมันฟังใจเสาะเหลือเกิน แต่ใครจะไปลงโทษเค้า ในสายตาพ่อแม่เค้าไม่มีจุดยืน
จดหมายที่เขียนด้วยถ้อยคำที่เคร่งครัดจากพ่อของฉัน ซึ่งระบุความคิดของเขา (ดูโพสต์ถัดไป)

คุยกันเสร็จผมขอตัวเก็บเสื้อผ้าและเดินออกจากบ้านไปเลย

จากนี้เราต้องไปหาที่พักที่นอนด้วยกัน

เราได้เจอห้องพักแห่งหนึ่งในบ้านแบ่งซีก สภาพห้องก็สุดดูโทรมแต่ราคาถูกแต่อยู่ในใจกลางเมือง

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมต้องเลี้ยงตัวเอง
เพราะเรากลับไปขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ไม่ได้แล้ว

เชอวอนหางานใหม่ให้ทำได้ทันที ไม่ยังนั้นเราคงไม่รอดแน่
เพราะผมยังเรียนอยู่ รายได้ยังน้อย

ตอนแรกเค้าได้งานแนวค้าขาย ได้เงินเดือนดี และเดินทางต่าง ตจว บ่อยด้วย

ต่อมาก็เปลี่ยนตัวเป็นผู้ช่วยหมอที่คลินิกท้องถิ่น

แต่ถึงแม้ว่าผมอัพสเตตัสตัวเองโดยได้มี ผู้หญิง ค่อยเลี้ยงแล้ว
แต่ชีวิตผมไม่ต่างจากนักศึกษาคนอื่นทั่วไปมากนัก

ผมยังต้องไปหางานทำหลายที่สารพัด เช่น ล้างจานที่ร้านอาหาร แบกของ ฯลฯ
เพื่อประทังชีวิตคู่ของเรา

เพราะตังค์ไม่พอใช้

สภาวะเงินทองของเราก็แย่ๆ แบบนี้ตลอดเกือบทั้ง 15 ปีที่เราคบกันมา

พอเราเริ่มคบกันจริงๆ เชอวอนบอกว่าจะไม่รับงาน full-time แล้ว

เค้าชอบเป็น lady of leisure มากกว่า

เงินเดือนถึงจะน้อย

แทนที่จะเป็น sugar mummy จริงเค้ากลายเป็นน้ำหนักที่เราต้องแบกรับไว้เอง

หลังเรียนมาหาลัยจบ ผมเริ่มทำงานเป็นนักข่าวแล้ว
แต่ประสบการณ์งานยังน้อยอยู่เลย เงินเดือนก็ต่ำเหมือนกัน


now, see here

20plus club (2)

รถติดที่สยามสแควร์สมัยเพิ่งแรกมา
เดือนสิงหาคม ปี 2000

ผมบินออกจากประเทศบ้านเก่าที่เคยพักอาศัยอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์

มาสู่เมืองไทยเพื่อจะเริ่มต้นชีวิตใหม่

หลังทิ้งงานเก่า เลิกกับแฟนแก่ ลาก่อนครอบครัว และหวังว่า 

ไอ้โรคซึมเศร้าที่กวนประสาทหัวผมหลายปีจะหายไปด้วย

ผมบินมาจาก Christchurch

ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินที่ กทม หลังจากมาเที่ยวครั้งแรกไม่กี่เดือนก่อนหน้า

โดยไม่รู้ว่าจะมีที่พักหลับนอนที่ไทยไปอีกนานเท่าไร เพราะไม่ได้วางแผนอะไร
และยังไม่ได้เรียกประเทศไหนว่า home ให้แน่ชัด

รู้แต่ว่าเรารักเมืองไทยตั้งแต่มาเที่ยวสามเดือนก่อนหน้านั้น

ผมและเพื่อนรุ่นน้อง ชื่อ  ริชาร์ด พากันมาเที่ยวเมืองไทยด้วยกัน

ริชาร์ดพึ่งเรียนจบที่เมือง Christchurch

เค้าจบปริญญานิติศาสตร์ พอดีผมพึ่งเลิกทำงานเป็นนักข่าวที่ the
Christchurch Press พร้อมกันในเดือนเมษายน

และไม่รู้จะไปไหนต่อดี

น้องเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ part-time ที่ออฟฟิศผม

เมื่อริชาร์ดได้รู้ว่าผมกำลังลาออก เค้าชวนผมไปเที่ยวเมืองไทยเป็นเพื่อนด้วยกัน

'เที่ยวเสร็จผมจะหางานทำที่ลอนดอนต่อ' น้องบอกเราแบบนี้

เราไปเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆอยู่ทั้งที่ กทม และ ภูเก็ต ในเดือนเมษายน

พอถึง ภูเก็ต ริชาร์ดได้บทเรียนชีวิตไทยๆ เมื่อเค้าได้เจอกะเทยแสบๆ
ที่ขโมยเงินเค้าและวิ่งหนีไป เป็นหลายหมื่นบาทเลย

'ผมคิดว่าเค้าเป็น ผู้หญิง ธรรมดา และพาเค้าไปนอน

เมื่อผมได้จับว่าที่จริงแล้วเค้าเป็นผู้ชายที่ยังไม่ได้แปลงเพศ

ผมก็ช็อกและร้องตะโกนออกมา

ท่ามกลางความชุลมุนนั้นน้องกะเทยฉกเงินผมและวิ่งหนี้ไป' น้องบอกผม

กรุงเทพมหานคร ปี 1997
แม่ริชาร์ดต้องโอนเงินมาเพิ่มให้เค้า พร้อมกำชับให้เค้าระวังตัวให้มากขึ้นด้วย

'ฉันเลี้ยงเค้าคนเดียว ไม่ค่อยมีตังค์ แม่บอกผมทางโทรศัพท์ด้วยใจเหนื่อยล้า

ต่อมาพอถึงเวลาแยกทางกัน น้องริชาร์ดบินไปที่อังกฤษต่อ
ส่วนผมก็บินกลับไปที่ประเทศบ้านเก่าที่เคยพักอาศัยอยู่เตรียมตัวหางานทำใหม่

แต่หลังจากได้ลิ้มรสชาติชีวิตที่เมืองไทยในการไปเที่ยวสองอาทิตย์ก่อน

ผมรู้สึกกระสับกระส่าย ประทับใจเมืองไทยจนไม่อยากอยู่ที่ นิวซีแลนด์ อีกแล้ว

ชีวิตฝรั่งที่นั้นดูจืดชืดเหลือเกิน

ผมเลยมุ่งหน้าไปหางานทำที่ กทม แทน โดยเขียนไปถึง นสพ แห่งหนึ่งที่ กทม

เราได้เห็น นสพ ฉบับนี้ขายอยู่ตอนไปเที่ยว

ผมสอบถามดูว่าเค้ามีงานว่างให้ทำบ้างมั้ย

เพื่อจะได้กลับไปเมืองไทย และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั้น

เค้ารับผมโดยทันทีเลย

ต่อมาฉันบินกลับไปที่ กทม อีกที ตอนเดือนสิงหาคม

ครั้งนี้ ผมมาคนเดียว ไม่มีเพื่อนติดไปด้วย

now, see here

โพส์ตเด่น

Blast from the past (part 1)

Jack's Point golf club, with the Remarkables range "คุณเคยมาที่นี่เมื่อก่อนนี้," ผู้จัดการร้านอาหารกล่าวอย่ างเป็นนัย ร้านอาหา...

โพส์ตนิยม