รถติดที่สยามสแควร์สมัยเพิ่งแรกมา |
ผมบินออกจากประเทศบ้านเก่าที่ เคยพักอาศัยอยู่ที่ประเทศนิวซี แลนด์
มาสู่เมืองไทยเพื่อจะเริ่มต้นชี วิตใหม่
หลังทิ้งงานเก่า เลิกกับแฟนแก่
ลาก่อนครอบครัว และหวังว่า ไอ้โรคซึมเศร้าที่กวนประสาทหั วผมหลายปีจะหายไปด้วย
ผมบินมาจาก Christchurch
ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินที่ กทม หลังจากมาเที่ยวครั้งแรกไม่กี่ เดือนก่อนหน้า
โดยไม่รู้ว่าจะมีที่พักหลั บนอนที่ไทยไปอีกนานเท่าไร เพราะไม่ได้วางแผนอะไร
และยังไม่ได้เรียกประเทศไหนว่า home ให้แน่ชัด
รู้แต่ว่าเรารักเมืองไทยตั้งแต่ มาเที่ยวสามเดือนก่อนหน้านั้น
ผมและเพื่อนรุ่นน้อง ชื่อ ริชาร์ด พากันมาเที่ยวเมืองไทยด้วยกัน
ริชาร์ดพึ่งเรียนจบที่เมือง Christchurch
เค้าจบปริญญานิติศาสตร์ พอดีผมพึ่งเลิกทำงานเป็นนักข่ าวที่ the
Christchurch Press พร้อมกันในเดือนเมษายน
และไม่รู้จะไปไหนต่อดี
น้องเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ part-time ที่ออฟฟิศผม
เมื่อริชาร์ดได้รู้ว่าผมกำลั งลาออก เค้าชวนผมไปเที่ยวเมืองไทยเป็ นเพื่อนด้วยกัน
'เที่ยวเสร็จผมจะหางานทำที่ ลอนดอนต่อ' น้องบอกเราแบบนี้
เราไปเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ ๆอยู่ทั้งที่ กทม และ ภูเก็ต ในเดือนเมษายน
พอถึง ภูเก็ต ริชาร์ดได้บทเรียนชีวิตไทยๆ เมื่อเค้าได้เจอกะเทยแสบๆ
ที่ขโมยเงินเค้าและวิ่งหนีไป เป็นหลายหมื่นบาทเลย
'ผมคิดว่าเค้าเป็น ผู้หญิง ธรรมดา และพาเค้าไปนอน
เมื่อผมได้จับว่าที่จริงแล้วเค้ าเป็นผู้ชายที่ยังไม่ได้แปลงเพศ
ผมก็ช็อกและร้องตะโกนออกมา
ท่ามกลางความชุลมุนนั้นน้ องกะเทยฉกเงินผมและวิ่งหนี้ไป' น้องบอกผม
แม่ริชาร์ดต้องโอนเงินมาเพิ่ มให้เค้า พร้อมกำชับให้เค้าระวังตัวให้ มากขึ้นด้วย
'ฉันเลี้ยงเค้าคนเดียว ไม่ค่อยมีตังค์ แม่บอกผมทางโทรศัพท์ด้วยใจเหนื่ อยล้า
ต่อมาพอถึงเวลาแยกทางกัน น้องริชาร์ดบินไปที่อังกฤษต่อ
ส่วนผมก็บินกลับไปที่ประเทศบ้ านเก่าที่เคยพักอาศัยอยู่เตรี ยมตัวหางานทำใหม่
แต่หลังจากได้ลิ้มรสชาติชีวิตที่ เมืองไทยในการไปเที่ยวสองอาทิ ตย์ก่อน
ผมรู้สึกกระสับกระส่าย ประทับใจเมืองไทยจนไม่อยากอยู่ ที่ นิวซีแลนด์ อีกแล้ว
ชีวิตฝรั่งดูจืดชืดเหลือเกิน
ผมเลยมุ่งหน้าไปหางานทำที่ กทม แทน โดยเขียนไปถึง นสพ แห่งหนึ่งที่ กทม
เราได้เห็น นสพ ฉบับนี้ขายอยู่ตอนไปเที่ยว
ผมสอบถามดูว่าเค้ามีงานว่างให้ ทำบ้างมั้ย
เพื่อจะได้กลับไปเมืองไทย และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั้น
เค้ารับผมโดยทันทีเลย
ต่อมาฉันบินกลับไปที่ กทม อีกที ตอนเดือนสิงหาคม
ครั้งนี้ ผมมาคนเดียว ไม่มีเพื่อนติดไปด้วย
หลังทิ้งงานเก่า เลิกกับแฟนแก่
ลาก่อนครอบครัว และหวังว่า ไอ้โรคซึมเศร้าที่กวนประสาทหั
ผมบินมาจาก Christchurch
ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินที่ กทม หลังจากมาเที่ยวครั้งแรกไม่กี่
โดยไม่รู้ว่าจะมีที่พักหลั
และยังไม่ได้เรียกประเทศไหนว่า home ให้แน่ชัด
รู้แต่ว่าเรารักเมืองไทยตั้งแต่
ผมและเพื่อนรุ่นน้อง ชื่อ ริชาร์ด พากันมาเที่ยวเมืองไทยด้วยกัน
ริชาร์ดพึ่งเรียนจบที่เมือง Christchurch
เค้าจบปริญญานิติศาสตร์ พอดีผมพึ่งเลิกทำงานเป็นนักข่
Christchurch Press พร้อมกันในเดือนเมษายน
และไม่รู้จะไปไหนต่อดี
น้องเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ part-time ที่ออฟฟิศผม
เมื่อริชาร์ดได้รู้ว่าผมกำลั
'เที่ยวเสร็จผมจะหางานทำที่
เราไปเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่
พอถึง ภูเก็ต ริชาร์ดได้บทเรียนชีวิตไทยๆ เมื่อเค้าได้เจอกะเทยแสบๆ
ที่ขโมยเงินเค้าและวิ่งหนีไป เป็นหลายหมื่นบาทเลย
'ผมคิดว่าเค้าเป็น ผู้หญิง ธรรมดา และพาเค้าไปนอน
เมื่อผมได้จับว่าที่จริงแล้วเค้
ผมก็ช็อกและร้องตะโกนออกมา
ท่ามกลางความชุลมุนนั้นน้
แม่ริชาร์ดต้องโอนเงินมาเพิ่
'ฉันเลี้ยงเค้าคนเดียว ไม่ค่อยมีตังค์ แม่บอกผมทางโทรศัพท์ด้วยใจเหนื่
ต่อมาพอถึงเวลาแยกทางกัน น้องริชาร์ดบินไปที่อังกฤษต่อ
ส่วนผมก็บินกลับไปที่ประเทศบ้
แต่หลังจากได้ลิ้มรสชาติชีวิตที่
ผมรู้สึกกระสับกระส่าย ประทับใจเมืองไทยจนไม่อยากอยู่
ชีวิตฝรั่งดูจืดชืดเหลือเกิน
ผมเลยมุ่งหน้าไปหางานทำที่ กทม แทน โดยเขียนไปถึง นสพ แห่งหนึ่งที่ กทม
เราได้เห็น นสพ ฉบับนี้ขายอยู่ตอนไปเที่ยว
ผมสอบถามดูว่าเค้ามีงานว่างให้
เพื่อจะได้กลับไปเมืองไทย และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั้น
เค้ารับผมโดยทันทีเลย
ต่อมาฉันบินกลับไปที่ กทม อีกที ตอนเดือนสิงหาคม
ครั้งนี้ ผมมาคนเดียว ไม่มีเพื่อนติดไปด้วย
now, see here
No comments:
Post a Comment
เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...