Thursday, 21 December 2017

อดีตวงกินเหล้า (3)

ทางลาดไปสู่บ้านเค้า

วงเหล้านี้ยินดีเปิดรับสมัครคนใหม่ๆเข้ามาเสมอ ถ้าเค้ายอมใจจะออกตังค์ช่วยซื้อเหล้า
พวกขาประจำมักจะทักหรือเรียกคนหน้าใหม่ๆ ที่ขับมอเตอร์ไซค์เข้าออกซอยตลอด
และยื่นแก้วเหล้ากำชับให้กินตามนิสัย
พวกสมาชิกในวงต้องค่อยหาหน้าใหม่มาตลอด เพราะพอได้รู้จุดหมายของพวกนี้เค้า
บางคนอาจจะหมั่นไส้ และเลิกคบ
ส่งผลกระทบกับจำนวนที่เหลือในวง ว่าจะลงขันไม่พอซื้อเหล้า
บางคนเอาไม่อยู่จริงๆ
ก่อนเลิกคบเค้าชอบบ่นว่า คนในวงหลอกเค้ากิน
จนกลายเป็นจุดอ่อนในวงนี้เอง
พวกขาประจำรู้สึกแค้นใจเมื่อได้ยินคนพูดแบบนี้
เค้าถึงรีบจัดการไล่ผมออกจากวงเหล้านี้ไง หลังจากเรามีปัญหากันเรื่องเงิน
ซึ่งเกิดจากที่ผมไม่ยอมออกเงินเลี้ยงเหล้าในวันเกิดแม่
เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
-
ก่อนที่เราแตกแยกกันเรื่องค่าเหล้าในงานวันเกิดแม่
ผมโดนพวกนี้หลอกกินชัดๆ กระทั่งผมรู้สึกผิดใจกับคนในวงเหล้า
ย้อนเวลากลับไปที่ช่วงแรกคบ เรารู้จักกันแค่สองวันเองในช่วงปีใหม่ 2014
แต่พวกนี้เริ่มหาโอกาสโกงผมแล้ว
ป้าเล็กเล่นกลโดยจับผมและน้องดรีมให้เป็นพ่อบุญธรรมและลูกบุญธรรม
ทั้งๆที่เราแทบไม่รู้จักกัน และไม่รู่ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง
ป้าเล็กช่วนน้องนั่งที่โต๊ะผู้ใหญ่ แล้วถามเค้าว่า
'ดรีมอยากเป็นลูกบุญธรรมฝรั่งมั้ย'
น้องไม่มีพ่อของตัวเองก็จริง เพราะพ่อแม่แยกทางกันก่อนเค้าเกิด
แต่น้องยังมีครอบครัวแท้ๆของเค้
ป้าเล็กถามผมเช่นกัน 'อยากเป็นพ่อบุญธรรมน้องมั้ย'
โดยผมไม่ได้นึกว่าอยากเป็นพ่อ หรือขออะไรจากเค้าซะก่อน
แต่ยังไงเราก็ยังตกลงกันคืนนั้น ว่าจะลองคบกันดูในเชิงพ่อลูกไป
ต่อจากนั้นผมกับดรีมคุยกันบ่อยขึ้นโดยผมมักจะโทรไปถามสารทุกข์สุกดิบของเค้า
แต่เราคบกันไม่กี่อาทิตย์ก่อน เราเกิดมีทะเลาะกันเรื่องไร้สาระ
ผลที่ตามมาคือเราต่างบาดหมางใจกันไม่ยอมคุยกันอีกเลยเป็นหลายปี
ตอนแรกผมไม่ได้เอ๊ะใจในความมุ่งหมายของป้าเล็กที่พยายามดึงให้เราเป็นพ่อแบบนี้
แต่จุดประสงค์จริงๆก็เริมปรากฏชัดเมื่อป้าเล็กออกตัวชวนผมมานั่งร่วมกินกับวงนี้บ่อยขึ้น
'ไมเคิลมาทุกคืนนะ น้องดรีมอยากเจอ' เค้าว่าอย่างนี้
น้องดรีมไม่อยากเจอหรอก เค้ายังเป็นวัยรุ่นแล้วตอนนั้นก็คบกับแฟน
งานของเค้าก็ยุ่งอีก เราต่างคนไม่มีเวลาให้กันและกัน
แต่เค้าตกลงว่าจะรับผมเป็นพ่อ เพราะป้าเล็กแอบขอร้องเค้าก่อนที่ผมมา
ป้าเล็กรู้เลยว่าถ้าผมมานั่งกินเหล้าบ่อย วงจะไม่มีวันขาดแคลนเหล้า เพราะผมมีตังค์
พอเหล้าหมดเราต้องช่วยกันลงขันซื้อขวดใหม่อยู่แล้ว แต่บางคน
รวมถึงป้าเล็กด้วย ไม่มีเงิน
เค้าชงดริ๊งให้คนในวงแทน แลกกับมีสิทธิ์กินฟรี
สรุปแล้วเค้าตั้งฉากอบอุ่นใจ สวีทๆ กับน้องนั้นเพื่อหลอกกินผม
-
ป้าเล็กชอบเล่นมุกว่า พวกในวงเหล้าจะไม่มีวันหลอกกินฝรั่ง (โง่ๆ) คนนี้นะ
แกชอบสร้างภาพให้เราคิดว่า วงเป็นแหล่งสุดอุ่นใจ และน่าเชื่อถือ
'ถ้าพวกสมาชิกในวงเหล้าขอเงินไมเคิล
ห้ามตกลงถ้าไม่เช็คกับแม่โอ่งหรือป้าเล็กเสียก่อนนะ' แกชอบพูด
ข้อห้ามนี้ ไม่ได้หมายถึงว่า แม่หรือป้าเล้กเองจะไม่ขอเงินนะ
เพราะคู่นี้ขอเงินผมหลายครั้ง
เพียงแต่ว่าเค้าไม่อยากให้คนอื่นแย่งชิงเงินผมไง
นอกนั้นแกชวนให้เราคิดว่า การคบกับพวกนี้จะปลอดภัยกว่าการคบอยู่กับแฟนอีก
(ทั้งที่พวกนี้ไม่รู้จักแฟนผม)
'ฝรั่งคงถูกคนไทยหลอกได้ง่าย เพราะไม่รู้นิสัยคนไทยจริง' เค้าอ้างแบบนี้
'แต่คนในวงนี้เป็นคนเชื่อใจได้ ตอนไหนที่ไมเคิลมีปัญหาที่บ้าน
รีบมาหาเรานะ เราจะดูแลไมเคิลอย่างดี'
ผู้อ่านคงอยากถามแล้วว่า ทำไมถึงชอบคบกับคนพวกนี้
ตอนนั้นผมอยากมีเพื่อนกินเหล้าใกล้บ้าน นิสัยแปลกๆของเค้าเราพอจะรับได้
นอกนั้นผมรู้สึกผิดที่ไปทะเลาะกับน้องดรีมในช่วงต้นๆ นั้น แต่เราค่อยหาโอกาสคืนดีกัน
(ทุกวันนี้ผมกับน้องคุยกันได้แล้ว หลังจากเค้าขอโทษผม แต่เราต้องรอนาน
เป็นหลายๆปี ถึงจะได้คืนดีกัน)
-
หลังเจอกันคืนแรก
เราคบกันไปเรื่อย และสนิทใจมากขึ้นต่อเนื่อง
ผ่านไปไม่นาน แม่โอ่งชวนผมเข้าร่วมงานแต่งของญาติ เจ้าสาวดูออกเป็นทอม
น้องคนนี้เป็นญาติห่างๆของแม่โอ่ง และเป็นเพื่อนบ้านในซอยด้วย
และนอกนั้น เมื่อในเดือนเมษา ปี 2014 แม่โอ่งชวนผม พร้อมกับน้องสาวผมคนโต ผัวและลูกๆของน้องสาวผม 3 คน ที่มาเที่ยวเมืองไทยตอนนั้น
ไปร่วมงานเลี้ยงตอนกลางวัน
ที่เค้าจัดให้คนในซอยอยู่ทุกปี
มีท่าว่าจะคบกันแบบนี้ไปเรื่อย
แต่สุดท้ายทุกอย่างต้องจบไปกระทันหัน เมื่อผมไม่ยอมออกตังค์เลี้ยงเหล้าวันเกิดแม่

อดีตวงกินเหล้า (2)

น้องดรีม (ซ้าย) แวะมาคุยกับคนในวงรวมถึงป้าเล็ก (ขวา)

ดรีมน่าจะเป็นตัวที่บอกแม่ว่า เรารู้จักกัน
เพราะน้องเป็นคนแรกที่เราพบเจอกันที่หน้าบ้านเค้า
พวกเค้าถึงชวนผมมากินที่โต๊ะ ในคืนแรกคุยกัน
ที่โต๊ะนั้นมีพวกที่เป็นขาประจำ ที่จะมาทุกคืนโดยไม่ต้องมีใครต้องชวนก็มาเองโดยอัตโนมัต
เวลาพูดคุย คนในวงชอบแสดงตัวเหมือนเล่นบทในละครทีวี
คือต่างผลัดกันพูดหรือทำอะไรเว่อๆ เพื่อดึงความสนใจผู้อื่นในวง ที่นั่งร่วมวงกันอยู่
เป็นตัวละครเล่นบทเพี้ยนๆทั้งนั้นเลย เช่น
1.  พี่ปู
พู้ชายอายุกลางคน
วันแรกเจอกันแกดึงแขนผมและออกหน้าว่า ครอบครัวเค้าดัง
ที่สืบทอดจากตระกูลดังเดิมแถวนั้
ฐานะไม่รวยแต่มีคนรู้จักทั่วเขต เรียกว่าขุนนางท้องถิ่นก็ว่าได้
'ผมนามสกุล ณ ระนอง เป็นชื่อเดียวกับถนนเส้นหลักหน้าปากซอยนี้
เค้าตั้งชื่อซอยตามนามสะกุลผมเลย'
แกบอกพร้อมควักรูปถ่ายเก่าๆออกจากกระเป๋าตังค์ให้ดู
เป็นรูปของครอบครัวเค้า
พี่ปูมีแฟนน่ารัก และลูกสาวตัวเล็ก
ดังหรือไม่ดังตามที่แกอ้างผมไม่รู้จริงๆ
รู้แต่ว่าพี่ปูมีชื่อเสียงแถวนั้น ว่าเป็นคนขี้เหนียวจะตายสำหรับการเลี้ยงในวง
การที่แกไม่มีตังค์ จะไม่เคยเป็นอุปสรรคให้แกมาเที่ยวที่บ้านนี้เลย
แกชอบกินเหล้าถ้าคนอี่นจ่าย แต่เมื่อถึงตาที่เค้าต้องออกเอง ถ้าไม่หนีออกไปก่อนเลยนะ แกชอบบอกว่า
'ไม่มีตังค์' และไม่ยอมควักออกสักบาทเลย
2.  พี่หมี
พี่ชายอายุกลางคนรูปร่างอ้วนตัวกลม โดนเพื่อนแซวว่าพุงใกล้จะระเบิดแล้ว
พี่หมีขับรถบรรทุกเล็กรับจ้างค้นของ และพักอาศัยอยู่ร่วมกับแม่เค้าในซอย
เค้าทำกับข้าวเก่ง
และชอบทำอาหารให้พวกเรากิน โดยใช้ถังแก๊สและกระทะที่ตั้งข้างๆโต๊ะไว้
ทำอาหารฝรั่งเป็นขั้นเทพ และชอบถามผมดูว่า 'อร่อยเท่ากับร้านที่ ตปท
มั้ยฝรั่ง' (อร่อยสิ สู้กับร้านดังๆได้เลย)
3. พี่แดง เมีย และลูกๆ เค้า
พี่แดงเป็นไรเด้อร์ (ถ้าจำไม่ผิด) ชอบมาประจำ
เมียเค้า ชื่ออ้อ มักจะพาลูกสามคนมาด้วยหลังเค้าเลิกเรียน
เด็กๆนั่งเล่นกันที่บ้านแม่โอ่งเป็นหลายๆ ช.ม. ต่อวัน
ต้องรอให้พ่อจะกินเหล้าจนอิ่มท้องก่อนจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนได้
4. ผู้หญิง อายุกลางคน ชื่อแกะ ถ้าผมจำได้ถูก
เป็นตัวแสบ ชอบเกาะกินลูกชาย แล้วก็บ่นพึมพำลูกชายนี้ถ้าเค้าลืมส่งเงินมาให้
ตามนิสัยพี่แกะชอบอิจฉาคนที่มีตังค์ เช่น
พี่แกะเกลียดอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ทรัมป์ และอดีตนายกไทยฯ ทักษิณ
เป็นพิเศษ
5. แม่โอ่ง เจ้าของบ้าน
เป็นคนเงียบๆแต่เฟรนลี่ดี เป็นแม่ค้าทำก๋วยเตี๋ยวหน้าตลาดปีนัง และหลังๆมานี้ก็
รับงานเป็นแม่บ้านนอกเขตบ้านที่เค้าอยู่อีกด้วย
6. ป้าเล็ก เป็นขาประจำที่บ้านนี้นานกว่า 10 ปี
เป็นแม่บ้านเช่นกัน และเป็นเพื่อนสนิทของแม่โอ่ง
เค้าไม่มีตังค์แต่ชอบหาคนเข้ามาในวงเหล้าเพื่อช่วยเลี้ยงสมาชิกในวงเหล้านี้ไปเรื่อยเพราะกินกันเกือบทุกวันแต่ไม่มีปัญญาออกเงินกันเอง

 มีต่อ

Wednesday, 20 December 2017

อดีตวงกินเหล้า (1)


หน้าบ้านแม่โอ่งที่จัดวงกินเหล้

ผ่านมาหนึ่งปีแล้วตั้งแต่อดีตวงเหล้าบอกให้ผมออกไปจากกลุ่มของเค้า เพราะผมไม่ยอมเลี้ยงเหล้าเค้าตามเคยอีกแล้ว
หลังจากนั้นเราเลิกคุยกัน แต่ผมยังเดินผ่านบ้านเค้าเฉยๆ เกือบทุกวัน
บ้านเค้าอยู่ที่ปลายซอยติดกับถนนเส้นหลักที่ผมเดินไปสู่ออฟฟิศ
เราใช้ซอยที่เค้าอยู่เป็นทางลัด ทะลุไปถึงฝั่งออฟฟิศของเรา ซึ่งห่างกันประมาน 5 นาที
พวกนี้ชอบรวมตัวกันกินเหล้าหน้าบ้านหลังหนึ่งแถวตลาดปีนัง เขตคลองเตย เกือบทุกคืน
เราเจอกันหลายปีก่อนหลังจากผมเลิกงานแล้วกำลังเดินกลับบ้าน ในคืนวันเข้าปีใหม่ 2014
เมื่อมีป้าเรียกผมมาที่โต๊ะแล้วยื่นส่งแก้วเหล้ามาให้ดื่ม เพื่อจะฉลองเทศกาลปีใหม่
-
ต่อจากนั้นผมมักจะแวะกินเหล้ากับเค้าหลังเลิกงานบ่อยเป็นหลายเดือน
และพอเวลาผ่านไป หลายเดือนจนกลายเป็นหลายปี
แต่หลังจากผมโดนวงคว่ำบาทไป
ต่างฝ่ายต่างเชิดหน้ากันไม่ยอมคุยกันอีกแล้ว
-
วันก่อนผมเดินผ่านบ้านเค้าเหมือนเดิม
เราเห็นผู้หญิงสามสี่คนนั่งกันที่โต๊ะ เป็นขาประจำที่นี่ มองตาขึงใส่ผม
พอเดินเลยหน้าบ้านไป ผมได้ยินคำด่าว่า 'ฝรั่งขี้งก'
ลอยออกมาจากอดีตพวกวงกินเหล้านั้
เป็นพวกว่างมาก ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกินเหล้าประจำที่ผมเคยนั่งร่วมคุยกันแต่ตอนนี้เลิกคบแล้ว
พอได้ยินคำด่า ฝรั่งขี้งก
ผมสะดุ้ง ไอ้พวกมันจะเอาอะไรกันนักกันหนาเนอะ
เค้าคงหิวเหล้า และยังไม่ได้เจอใครเดินเข้ามาในซอย
ที่พอจะถูกเรียกเก็บให้ออกตังค์จ่ายค่าเหล้าเลี้ยงให้ในวงเหล้า
แต่ถ้าผมโดนวงชวนออกไปแล้ว เราจะกลับไปเลี้ยงเหล้าให้มันทำไม
อย่างน้อยเราต้องเคลียร์ใจกันก่อน
ฟังแรกๆผมโกรธเค้า
แต่พอคิดอีกที่
เรารู้ตามนิสัยอยู่ว่าพวกนี้คงไม่คิดอะไรมาก
อาจจะแค่เป็นคำทักทายของชาวสลัมแถวนี้ก็ได้
ที่จริงแล้วเราหน้าจะถือว่า ไอ้ฝรั่งขี้งก เป็นคำชมอีกด้วยซ้ำ
เพราะนิสัยผมอาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีโดยไม่รู้ตัว
คือขี้เหนียว ตระหนี่ ใจตีบมากขึ้นประมาณนั้น
โดยจะไม่ยอมเสียตังค์เลี้ยงคนไร้ค่าแบบนี้อีก
--
ผมไม่ยากเสียเวลารื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ มากนะ
แต่คนที่เรียกผมแแบบนั้น (เค้ารอให้ผมเดินพ้นจากบ้านก่อนด่า
ผมถึงไม่แน่ใจว่าเป็นใครด่าผมกันแน่)
เค้าคงลืมเสียแล้วว่า สมัยยังคบกันอยู่ ผมช่วยคนในบ้านและในวงเหล้านั้นมากมายแค่ไหน
ออกตังค์ช่วยหลายคนสารพัด เช่นออกค่าเรียนลูกชายเจ้าของบ้าน
สมัยนั้นที่ผมยังใจกว้างกระเป๋าตุงอยู่ ผมยินดีช่วย เพราะเราถือว่าเราเป็นเพื่อนกัน
แต่ก่อนเลิกคบกันไป คนในวงหาว่า
ผมเป็นฝ่ายเลิกคบในใจซะก่อนเพราะไม่พอใจที่เค้าชอบขอตังค์
เค้าอ้างว่าผมแอบคิดร้ายๆ กับวง หาว่าเค้าหลอกกินเงินผม
เป็นอีแอบ
แต่ไม่จริงหรอก
ผมไม่เคยคิด
และคำน่าเกลียดนี้ จะไม่มีวันออกจากปากผมด้วย
'หลอกกิน' เป็นคำพูดของคนไทยกินเก่งในวงเหล้า ที่ตามสภาพเงินก็เรียกว่า
หาเช้ากินค่ำ (แต่ลงทุนกินทุกคืน) เท่านั้นเอง
---
ช่วงแรกคบ เจ้าของบ้าน ชื่อ "แม่โอ่ง" รับผมเข้าไปในครอบครัวเค้า
เหมือนเป็นญาติเลย เทคแคร์ฝรั่งนี้ดี๊ดี
เค้ามีเพื่อนสนิท ชื่อป้าเล็ก
เป็นตัวละคนหลักในเรื่องนี้
ชอบดูแลให้ผมอุ่นละมุนหัวใจเหมือนกัน
นอกจากนี้ผมได้ไปรู้จักผัวของแม่โอ่ง ชื่อป๋าน้อย เป็นเจ้าของโรงทำน้ำแข็ง
และมีลูกชาย ชื่อดรีม อายุ 17
เค้าทำงานในวงการ shipping

โพส์ตเด่น

Blast from the past (part 1)

Jack's Point golf club, with the Remarkables range "คุณเคยมาที่นี่เมื่อก่อนนี้," ผู้จัดการร้านอาหารกล่าวอย่ างเป็นนัย ร้านอาหา...

โพส์ตนิยม