จากนั้นน้องก็ค่อยช่วยผมจัดการอะไรที่เกี่ยวกับการใช่มือ
เช่นแกะถุงขนมให้
หรือเปิดขวดเหล้าเป็นต้น
แล้วก็ค่อยติผมเบาๆ ถ้าผมยังทำผิดแกะไม่เป็น
แล้วก็ค่อยติผมเบาๆ ถ้าผมยังทำผิดแกะไม่เป็น
‘เปิดให้ดีๆหน่อยซิไมเคิล’ เค้าชอบว่ายังนี้ แล้วก็จับของไปทำเอาเอง
บางครั้งผมอาจจะพูดสวีทๆ กับเค้าเพื่อจะสร้างความผูกพันให้เพิ่มขึ้น
บางครั้งผมอาจจะพูดสวีทๆ กับเค้าเพื่อจะสร้างความผูกพันให้เพิ่มขึ้น
'ผมรักแก
อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่ผมจะไม่เลิกรัก'
การพูดไปแบบนี้อาจฟังหวานเกินไปแต่ผมไม่อยากให้เค้าเจออันตาราย
เค้าเดินที่ไหน
ผมชอบตัวติดเค้าด้วยจนเค้ายอมรับว่าผมเป็นห่วง
หลังเจอผมทำบ่อยๆ
น้องก็เริ่มใจอ่อนลง และบอกผมทุกทีถ้าจะเดินไปหาเพื่อนที่โต๊ะแปดนั้น
เค้าจะแจ้งผมไว้ก่อนด้วยว่า
จะไปทำอะไรและกลับเมื่อไร
กลับไปที่โต๊ะแปด
มีวันหนึ่งที่ผมยังดูแลน้องและพวกป้าเรียกผมมาคุย
เค้าเห็นน้องนอนอยู่ใต้ตนไม้และเรียกผมไปปลุกน้องให้กินข้าว
ผมปลุกน้องตามเคยแต่เมื่อเห็นสภาพร่างเค้า คือตัวสกปรก เลือดซึมออกจากแผลขาเหวอะ (เดี๋ยวจะอธิบาย) และเสื้อผ้าพะรุงพะรังอีก ผมเกิดสะเทือนใจและเก็บอารมณ์ไม่ไหว จู่ๆ ผมร้องไห้ต่อหน้าทุกคน
ผมไม่น่าจะเสียฟอร์มขนาดนี้จริงๆ แต่ผมไม่อยากเห็นเค้าในสภาพไร้คุณค่าแบบนี้ เมื่อเห็นผมร้อง น้องพูดเฉยๆว่า 'ไมเคิลอย่าร้อง' เค้าพูดเหมือนไร้ความรู้สึก
น้องน่าจะรู้ว่าสภาพตัวเองดูแย่จริงๆ และเข้าใจว่าผมเป็นห่วง แต่เค้าเลือกทางนี้ไปแล้ว และตอนนั้นยังไม่พร้อมกลับบ้าน
ถึงจะไม่พูดออกมาแต่พวกป้าคงเห็นว่า นิสัยผมดูแปลกๆ เพราะเค้าไม่ได้สงสารน้องมากนัก เค้าน้อยใจต่างหากที่ทั้งแม่กับลูกยังดื้อ และไม่ยอมคืนดีกัน และชอบโยงปัญหาทางครอบครัวไปรบกวนชาวบ้าน
มีอีกวันหนึ่ง ผมกำลังพาน้องออกจากโต๊ะแปดเข้าตรอกไปส่งที่บ้านวุฒ แต่น้องแอบได้ยินพวกป้าบ่นในเชิงว่า ‘ทำไมแม่เค้าไม่เลี้ยงดูแลลูกให้ดีกว่านี้’
เค้าหมายถึงว่า พวกเราต้องดูแลแทนแม่จนแม่กลายเป็นหนี้บุญคุณเราก็ว่าได้ ถ้ารวมยอดเงินค่าการประคองชีวิตน้องตั้งแต่เค้าโดนไล่ออกจากบ้าน บิลทั้งหมดอาจจะทะลุหลายพันบาทแล้วละมั้ง
ป้าพวกนี้พูดเผลอๆไป แต่เมื่อน้องได้ยินก็โมโหมาก ‘พวกเค้าด่าแม่ผม ไอ้เหี้ย’ น้องพูดกับผม แต่ไม่ได้ตอบโต้เค้า
เค้าเห็นน้องนอนอยู่ใต้ตนไม้และเรียกผมไปปลุกน้องให้กินข้าว
ผมปลุกน้องตามเคยแต่เมื่อเห็นสภาพร่างเค้า คือตัวสกปรก เลือดซึมออกจากแผลขาเหวอะ (เดี๋ยวจะอธิบาย) และเสื้อผ้าพะรุงพะรังอีก ผมเกิดสะเทือนใจและเก็บอารมณ์ไม่ไหว จู่ๆ ผมร้องไห้ต่อหน้าทุกคน
ผมไม่น่าจะเสียฟอร์มขนาดนี้จริงๆ แต่ผมไม่อยากเห็นเค้าในสภาพไร้คุณค่าแบบนี้ เมื่อเห็นผมร้อง น้องพูดเฉยๆว่า 'ไมเคิลอย่าร้อง' เค้าพูดเหมือนไร้ความรู้สึก
น้องน่าจะรู้ว่าสภาพตัวเองดูแย่จริงๆ และเข้าใจว่าผมเป็นห่วง แต่เค้าเลือกทางนี้ไปแล้ว และตอนนั้นยังไม่พร้อมกลับบ้าน
ถึงจะไม่พูดออกมาแต่พวกป้าคงเห็นว่า นิสัยผมดูแปลกๆ เพราะเค้าไม่ได้สงสารน้องมากนัก เค้าน้อยใจต่างหากที่ทั้งแม่กับลูกยังดื้อ และไม่ยอมคืนดีกัน และชอบโยงปัญหาทางครอบครัวไปรบกวนชาวบ้าน
มีอีกวันหนึ่ง ผมกำลังพาน้องออกจากโต๊ะแปดเข้าตรอกไปส่งที่บ้านวุฒ แต่น้องแอบได้ยินพวกป้าบ่นในเชิงว่า ‘ทำไมแม่เค้าไม่เลี้ยงดูแลลูกให้ดีกว่านี้’
เค้าหมายถึงว่า พวกเราต้องดูแลแทนแม่จนแม่กลายเป็นหนี้บุญคุณเราก็ว่าได้ ถ้ารวมยอดเงินค่าการประคองชีวิตน้องตั้งแต่เค้าโดนไล่ออกจากบ้าน บิลทั้งหมดอาจจะทะลุหลายพันบาทแล้วละมั้ง
ป้าพวกนี้พูดเผลอๆไป แต่เมื่อน้องได้ยินก็โมโหมาก ‘พวกเค้าด่าแม่ผม ไอ้เหี้ย’ น้องพูดกับผม แต่ไม่ได้ตอบโต้เค้า
ผมย้อนนึกถึงวันที่เจอกันที่โต๊ะแปดครั้งแรก
หลังจากแม่ลงดาบไล่เค้าออกจากบ้าน
ผมเห็นน้องนั่งอยู่คนเดียวสภาพมึนเมายาตอนมืดๆ
ผมพึ่งเลิกกินเหล้ากับเพื่อนข้างใน
และกำลังเดินกลับบ้านพอดี
น้องแต่งตัวมอมแมมยิ้มกับตัวเองเป็นเด็กเด๋อ
ผมทักทายธีร์แต่น้องคุยไม่รู้เรื่อง
ก็ว่าไปแล้ว
ผมรู้จักน้องตั้งแต่เค้ายังเรียนอยู่ อายุประมาณ15ปี แต่ไม่สนิทกัน
พอเห็นเค้านั่งคนเดียวในสภาพแบบนี้
ผมตกใจเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าเค้าเป็นเด็กเล่นยา
ตอนนั้นแสงไฟสลัวแต่ผมมองออกได้ว่า
น้องใส่กางเกงขาสั้นขาดลุ่ยหลายตัวทับกันเหมือนคนยากจน
ฝูงยุงก็รุมกัดขาของเค้า
แต่น้องนั่งเฉยๆ ไม่รู้สึกตัว
เพื่อนๆคงกลับบ้านกันหมดแล้วก็ทิ้งน้องอยู่คนเดียวแบบไม่แยแสเค้าเลย
ผมยังไม่รู้ว่าน้องกำลังมีปัญหากับทางบ้านเค้า
เมื่อผมถามถึงแม่
(เราต้องถามหลายครั้ง) น้องบอกว่า ‘ไมเคิลรู้ป่าวผมย้ายไปอยู่ที่บ้านวุฒิแล้ว’
โดยบังเอิญผมเพิ่งเริ่มคบกับวุฒิเมื่อไม่กี่วันก่อนแต่ไม่ได้เจอน้อง
ผมเลยไม่รู้เรื่อง
เราต้องรออีก 2-3 วันถึงได้เจอน้องที่บ้านวุฒิพอดี
แล้ววุฒิก็เล่าให้ฟังว่าเค้ากำลังช่วยน้องประคองชีวิตอยู่เพราะน้องมีปัญหากับแม่และไม่มีที่นอนประจำ
แต่เมื่อผมเจอน้องนั่งในไฟสลัวตรงทางที่หน้าตรอกคืนนั้น
ตอนแรกผมตกใจ คิดเอาเองว่าเค้ากำลังคิดสั้นอยู่
'อย่าคิดมากนะธีร์ไม่ต้องทำร้ายกับตัวเองสิเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง' ผมอ้อนวอนเค้า
น้องยังเมายาฟังผมไม่รู้เรื่อง
ทำได้แต่ตอบว่า ‘เออๆ ออๆ’
ผมคุกเข่านั่งยองๆคุยกับน้องอีก 10 นาทีแต่ไม่ได้มีผลอะไรเลย
now, see here
No comments:
Post a Comment
เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...