Monday 18 November 2019

ชีวิตผู้เสพยาต่อ (5)

จากนั้นน้องก็ค่อยช่วยผมจัดการอะไรที่เกี่ยวกับการใช่มือ
เช่นแกะถุงขนมให้ หรือเปิดขวดเหล้าเป็นต้น
แล้วก็ค่อยติผมเบาๆ ถ้าผมยังทำผิดแกะไม่เป็น
เปิดให้ดีๆหน่อยซิไมเคิล เค้าชอบว่ายังนี้ แล้วก็จับของไปทำเอาเอง
บางครั้งผมอาจจะพูดสวีทๆ กับเค้าเพื่อจะสร้างความผูกพันให้เพิ่มขึ้น
'ผมรักแก อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่ผมจะไม่เลิกรัก'
การพูดไปแบบนี้อาจฟังหวานเกินไปแต่ผมไม่อยากให้เค้าเจออันตาราย
เค้าเดินที่ไหน ผมชอบตัวติดเค้าด้วยจนเค้ายอมรับว่าผมเป็นห่วง
หลังเจอผมทำบ่อยๆ น้องก็เริ่มใจอ่อนลง และบอกผมทุกทีถ้าจะเดินไปหาเพื่อนที่โต๊ะแปดนั้น
เค้าจะแจ้งผมไว้ก่อนด้วยว่า จะไปทำอะไรและกลับเมื่อไร 
โต๊ะแปดตอนกลางคืน จะดูเละหน่อย
กลับไปที่โต๊ะแปด มีวันหนึ่งที่ผมยังดูแลน้องและพวกป้าเรียกผมมาคุย 
เค้าเห็นน้องนอนอยู่ใต้ตนไม้และเรียกผมไปปลุกน้องให้กินข้าว 
ผมปลุกน้องตามเคยแต่เมื่อเห็นสภาพร่างเค้า คือตัวสกปรก เลือดซึมออกจากแผลขาเหวอะ (เดี๋ยวจะอธิบาย และเสื้อผ้าพะรุงพะรังอีก ผมเกิดสะเทือนใจและเก็บอารมณ์ไม่ไหว จู่ๆ ผมร้องไห้ต่อหน้าทุกคน 
ผมไม่น่าจะเสียฟอร์มขนาดนี้จริงๆ แต่ผมไม่อยากเห็นเค้าในสภาพไร้คุณค่าแบบนี้ เมื่อเห็นผมร้อง น้องพูดเฉยๆว่า 'ไมเคิลอย่าร้องเค้าพูดเหมือนไร้ความรู้สึก 
น้องน่าจะรู้ว่าสภาพตัวเองดูแย่จริงๆ และเข้าใจว่าผมเป็นห่วง แต่เค้าเลือกทางนี้ไปแล้ว และตอนนั้นยังไม่พร้อมกลับบ้าน 
ถึงจะไม่พูดออกมาแต่พวกป้าคงเห็นว่า นิสัยผมดูแปลกๆ เพราะเค้าไม่ได้สงสารน้องมากนัก เค้าน้อยใจต่างหากที่ทั้งแม่กับลูกยังดื้อ และไม่ยอมคืนดีกัน และชอบโยงปัญหาทางครอบครัวไปรบกวนชาวบ้าน 
มีอีกวันหนึ่ง ผมกำลังพาน้องออกจากโต๊ะแปดเข้าตรอกไปส่งที่บ้านวุฒ แต่น้องแอบได้ยินพวกป้าบ่นในเชิงว่า ทำไมแม่เค้าไม่เลี้ยงดูแลลูกให้ดีกว่านี้’ 
เค้าหมายถึงว่า พวกเราต้องดูแลแทนแม่จนแม่กลายเป็นหนี้บุญคุณเราก็ว่าได้ ถ้ารวมยอดเงินค่าการประคองชีวิตน้องตั้งแต่เค้าโดนไล่ออกจากบ้าน บิลทั้งหมดอาจจะทะลุหลายพันบาทแล้วละมั้ง 
ป้าพวกนี้พูดเผลอๆไป แต่เมื่อน้องได้ยินก็โมโหมาก  ‘พวกเค้าด่าแม่ผม ไอ้เหี้ย น้องพูดกับผม แต่ไม่ได้ตอบโต้เค้า 
ผมย้อนนึกถึงวันที่เจอกันที่โต๊ะแปดครั้งแรก หลังจากแม่ลงดาบไล่เค้าออกจากบ้าน
ผมเห็นน้องนั่งอยู่คนเดียวสภาพมึนเมายาตอนมืดๆ
ผมพึ่งเลิกกินเหล้ากับเพื่อนข้างใน และกำลังเดินกลับบ้านพอดี
น้องแต่งตัวมอมแมมยิ้มกับตัวเองเป็นเด็กเด๋อ
ผมทักทายธีร์แต่น้องคุยไม่รู้เรื่อง
ก็ว่าไปแล้ว ผมรู้จักน้องตั้งแต่เค้ายังเรียนอยู่ อายุประมาณ15ปี แต่ไม่สนิทกัน
พอเห็นเค้านั่งคนเดียวในสภาพแบบนี้ ผมตกใจเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าเค้าเป็นเด็กเล่นยา
ตอนนั้นแสงไฟสลัวแต่ผมมองออกได้ว่า
น้องใส่กางเกงขาสั้นขาดลุ่ยหลายตัวทับกันเหมือนคนยากจน
ฝูงยุงก็รุมกัดขาของเค้า แต่น้องนั่งเฉยๆ ไม่รู้สึกตัว 
เพื่อนๆคงกลับบ้านกันหมดแล้วก็ทิ้งน้องอยู่คนเดียวแบบไม่แยแสเค้าเลย
ผมยังไม่รู้ว่าน้องกำลังมีปัญหากับทางบ้านเค้า
เมื่อผมถามถึงแม่ (เราต้องถามหลายครั้ง) น้องบอกว่า ไมเคิลรู้ป่าวผมย้ายไปอยู่ที่บ้านวุฒิแล้ว
โดยบังเอิญผมเพิ่งเริ่มคบกับวุฒิเมื่อไม่กี่วันก่อนแต่ไม่ได้เจอน้อง
ผมเลยไม่รู้เรื่อง
เราต้องรออีก 2-3 วันถึงได้เจอน้องที่บ้านวุฒิพอดี
แล้ววุฒิก็เล่าให้ฟังว่าเค้ากำลังช่วยน้องประคองชีวิตอยู่เพราะน้องมีปัญหากับแม่และไม่มีที่นอนประจำ
แต่เมื่อผมเจอน้องนั่งในไฟสลัวตรงทางที่หน้าตรอกคืนนั้น ตอนแรกผมตกใจ คิดเอาเองว่าเค้ากำลังคิดสั้นอยู่
'อย่าคิดมากนะธีร์ไม่ต้องทำร้ายกับตัวเองสิเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเองผมอ้อนวอนเค้า
น้องยังเมายาฟังผมไม่รู้เรื่อง ทำได้แต่ตอบว่า เออๆ ออๆ
ผมคุกเข่านั่งยองๆคุยกับน้องอีก 10 นาทีแต่ไม่ได้มีผลอะไรเลย

now, see here

No comments:

Post a Comment

เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...

โพส์ตเด่น

20plus club (Postscript 3, final)

แคปชั่นก๊อปจากเน็ต: โรงพยาบาลตำรวจบริเวณสี่ แยกราชประสงค์ ปี พ.ศ. 2542 แจกเสร็จ น้องก็นั่งรอจ่ายบิลอยู่ข้างๆผม มือน้องสั่น เหงื่อออกเต็มหน้า...

โพส์ตนิยม