Monday 18 November 2019

ชีวิตผู้เสพยาต่อ (4)

เค้ามีงานทำหรือมีแฟนคบกันหมดแล้ว’ ผมตอบตรงๆ ให้มันรู้ซะเลย
นอกนั้นถ้าแฟนผมมัวแต่เล่น เค้าจะดูแลผมไม่ไหว ทุกอย่างจะจบๆไป’ ผมตอบอีก
น้องดูเฉยๆ เพราะเค้าเลือกทางชีวิตไปแล้ว 
ผมถึงคิดนะว่าการห้ามธีร์ไม่ให้เล่นยาจะไม่มีประโยชน์
วัยรุ่นดื้อๆขนาดนี้ก็ยังหาวีธีแอบเล่นได้อยู่ดี
ผมเลยเล่นเปิดอุบายทางจิตวิทยาเค้าดีกว่า
ผมบอกว่า ถ้าเค้าเลือกเล่นยา ก็เท่ากับว่า เค้ายอมทำร้ายกับความรู้สึกผมและทุกคนที่รักเค้า
พวกเราก็ต้องเสียใจกับนิสัยแบบนี้
ผมรักมึงเหมือนแกเป็นลูกเรา จะไม่มีวันเลิกทิ้งหรือลืมทิ้งมึงหรอกตอนเนี้ยะ’ ผมบอก
แต่ถ้าเรารักแกขนาดนี้ แกจะยังเล่นยาและยอมทำร้ายกับความรู้สึกผมด้วยเหรอ
ผมถามเค้า
อยากเล่นก็เล่นไปเถอะ แต่ขออย่าเล่นหนักได้มั้ย ยาเสพติดอาจจะทำร้ายกับอนาคตแก แต่ลูกยังมองไม่เห็นผลตรงนี้ เอาความรู้สึกผมไปใส่ใจก่อนแล้วกัน’ ผมบอกเค้าอีก
ผมพูดอย่างนี้หลายรอบจนน้องเริ่มใจอ่อนนิดหนึ่ง เราเห็นเค้าเดินจับขมับหัวตัวเองบ่อย แล้วก็บ่นว่าผมพาเค้าไปปวดกระบาลฟรีๆ
เค้ารู้สึกสับสนและมีความรู้สึกขัดแย้งภายในใจตนเอง ใจหนึ่งอยากเล่น อีกใจหนึ่งไม่อยากทำให้ผมเฮิร์ท
อยากเล่นต่อ แต่ไม่อยากให้ผมผิดหวังใช่มั้ย’ ผมตีความให้เค้าฟัง
น้องยอมลดการเล่นยานิดหน่อย แต่ไม่ได้เลิกแบบเด็ดขาด
อย่างที่แม่บอก น้องชอบทำตัวเหมือนคนไร้คุณค่าเพราะต้องเล่นยาให้ได้
หลักๆ เค้าตั้งใจเล่นยาโดยยอมใจเสียสละของดีๆจากชีวิตเค้ารวมถึงความรักจากผม เพื่อนและครอบครัวเค้าด้วย
น้องไม่ค่อยได้เจอคนรักเค้าแบบจริงๆมาก่อนมั้ง เลยไม่ชินกับความรู้สึกแบบนี้
พอเจอจริงๆก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องปรับตัวยังไงดี
หรือน้องอาจขาดความมั่นใจตัวเอง ถึงยอมใจเล่นยาและทำร้ายกับอนาคตตัวเองตรงนี้ก็ได้
-
หน้าปกหนังสือที่น้องหยิบเอามาอ่านเล่น

ผมสังเกตุว่าน้องมีปมด้อยที่เกี่ยวกับการเรียนน้อย
ถ้าใครพูดถึงการเรียน เค้าจะก้มหัวเงียบลงทันที เหมือนอยากเปลี่ยนหัวข้อคุย
เค้าจบแต่ไม่มีวุฒิ แต่น้องไม่โง่หรอก
มีวันหนึ่ง ที่ห้องผม เค้าหยิบหนังสือไปอ่านเล่น
เป็น นส สอนภาษาไทยที่ผมชอบเรียนเวลาว่าง
ชื่อว่า ภาษาพูด ภาษาเขียน
นักเขียนเอาภาษาทางการไปเปรียบเทียบกับภาษาพูดที่มีความหมายเดียวกัน แล้วก็เอาตัวอย่าง
ไปเป็นบรรทัดๆ ให้อ่านเทียบกัน
เช่น ถ้าเราจะพูดแบบว่า ถกก้น ภาษาเขียนมีความหมายคล้ายๆกันก็คือว่า ดึงผ้านุ่งขึ้นถึงสะโพก ฯลฯ
พอเราเห็นน้องจดจ่ออ่านเล่มนี้ ผมเงียบลงทันที ไม่อยากให้เค้าเสียสมาธิการอ่าน
วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเค้าหยิบหนังสืออ่านเล่นซึ่งไม่เคยเห็นที่ไหน
จากนั้น มีอีกวันหนึ่งที่ผมพาเค้าไปร้านเล่นเกมส์ข้างในซอย
ผมนั่งเล่นข้างๆตัวเค้าในขณะน้องเล่นคอมแชทกับเพื่อน
อยู่ดีๆ ผมเห็นน้องเริ่มพิมพ์สัมผัส
เค้าเงยหน้ามองหน้าจอเฉยๆ แต่นิ้วลื่นไหลตามคีย์บอร์ดเหมื่อนนักมัยากร (พิมพ์เร็วมาก)
'
โอ้ย แกพิมพ์สัมผัสเป็นเหรอ ทำได้ยังไง ผมอยากทำเป็นมาตั้งนาน 30 ปี ตั้งแต่เข้าวงการงานแรกๆ เลยแต่ยังทำไม่ได้สักที’ ผมชมเค้าด้วยความประทับใจจริง
'
เค้าสอนให้น้องตอบสั้นๆ
หมายถึงว่าทางโรงเรียนคงจัดคอร์สให้นักเรียนที่อยากเรียนรู้แนวนี้
ธีร์รู้มั้ยว่า แกจะหางานทางธุระการได้สบายถ้ามีฝีมือแบบนี้’ ผมถามเค้า
ผมชมเชยฝีมือตรงนี้เป็นหลายวัน และบอกเพื่อนเค้าไปอีกด้วย ว่าน้องพิมพ์สัมผัสเป็น
จนหัวน้องเริ่มพองเป่งซะแล้ว ด้วยความภูมิใจตัวเอง
'
ทุกอย่างที่ธีร์อยากทำ แกทำได้เก่งอยู่แล้วผมบอกเค้าบ่อยจนกลายเป็นคำวลีเด็ด
เราสนิทกันมากขึ้นไปเรื่อยจนพวกพี่ๆเริ่มจะแซวเล่นว่า เราน่าจะเป็นแฟนกัน
น้องไม่ได้ว่าอะไรที่โดนเพื่อนล้อ 
บางครั้งเค้าจะห้ามผมจับตัวเค้า เพราะกลัวพี่ๆจะไปแซวอีก
แต่โดยภาพรวม น้องคงแอบชอบที่มีผมเป็นผู้ดูแลเค้าจริง
ถ้าผมเลี้ยงเหล้าที่บ้านวุฒิและเรานั่งเล่นกันเป็นกลุ่ม
น้องจะนั่งข้างๆตัวผมเสมอให้เป็นเพื่อนช่วย
'ผมทำอะไรกับมือไม่ค่อยถนัด จับอะไรก็พังไปหมด' ผมเคยบอกเค้า
เหมือนอยากให้เค้ารู้ว่า ผมมีข้อเสียหรืออ่อนตรงไหนและอยากให้เค้าช่วยผมตรงนั้น

now, see here

No comments:

Post a Comment

เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...

โพส์ตเด่น

20plus club (Postscript 3, final)

แคปชั่นก๊อปจากเน็ต: โรงพยาบาลตำรวจบริเวณสี่ แยกราชประสงค์ ปี พ.ศ. 2542 แจกเสร็จ น้องก็นั่งรอจ่ายบิลอยู่ข้างๆผม มือน้องสั่น เหงื่อออกเต็มหน้า...

โพส์ตนิยม