Monday 18 November 2019

haircut adventures (6, final)

เค้าอาจจะรู้ว่าชาวบ้านจะไม่แฮปปี้ถ้าต้องสูญเสียร้านบริการดีของช่างตัดผมคนนี้
เพราะเค้าป๊อปปูล่าร์มาก
ช่างคิคราคา ค่าไถหัวคนละ 70 บาทเอง
และถ้าเราจะไปตัดผมวันไหน เราต้องเตรียมตัวต่อคิวยาว
ผมเคยนั่งรอเป็นชั่วโมงโดนทั้งแดดและฝนก็ตกจนเบื่อไม่อยากจะตัดแล้ว
ทำไมฝรั่งคนนี้ชอบร้านทำผมระดับเบสิคแบบนี้เนอะ
คนไทยชอบคิดว่า ถ้าฝรั่งมีตังค์เค้าต้องซื้ออะไรแพงๆ
แต่ความคิดแนวนี้ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป
ตัวเราไว้ผมสั้นมากจนเกือบหัวล้าน (ต้องใช้หัวบัตเตอร์เลี่ยนเบอร์หนึ่ง) ช่างไม่ต้องใช้ฝีมือสูงหรอก
ถ้าไปร้านแพงๆ จะเสียตังค์เปล่าๆเพราะหัวล้านก็ยังเป็นหัวล้านอยู่ดี ทำเก่งทำมั่วๆไม่มีใครจะรู้
เอาร้านใกล้บ้านราคาถูกๆ ก็ได้
ขอไม่โดนบาดเจ็บก็พอแล้วกัน


ร้านตัดผมแบบชาวบ้านๆที่ซอยอมร เจ้านี้รับดูดวงจากไพ่ยิปซี


ร้านถัดไปก็ติดพระราม 3 ทุกวันนี้รับปะยาง แต่เมื่อก่อนเป็นร้านตัดผม (ป้ายเก่ายังติดอยู่ที่หน้าต่าง) 

ร้านตัดผมอีกเจ้าหนึ่งในซอย (ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี่ ไม่ได้พาน้องไปดูวันนั้น)

กลับไปที่เรื่องราวน้องธีร์
พอเราเดินถึงบ้านวุฒิแล้วผมปลีกตัวออกเข้าไปหาเพื่อนข้างในเพราะเบื่อจะคุยกับน้องนิสัยดื้อๆแล้ว
ถ้าเค้าอยากไปตัดผม น้องต้องรอวันข้างหน้าแล้ว
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น
อีกสองอาทิตย์ต่อมา เรานั่งกินเหล้ากันที่หน้าบ้านวุฒิ
เด็กวัยรุ่นชายสองคน ขับรถมอเตอร์ไซค์มา
 'แกจะไปไหนอ่ะ วุฒิถาม
'จะไปตัดผมที่ตลาดนางลิ้นจี่เค้าตอบ
'
ร้านคิดราคาเท่าไร' วุฒิถามกลับไป
'
หัวละแค่ 70 บาทค้าตอบมา
อ้าว! ราคาแค่นี้เองเหรอ
ร้านนี่นะ น่าจะเป็นร้านที่เดียวที่น้องอยากไปใช้บริการเมื่อวันก่อน
แต่ถ้าเค้าคิดราคาแค่นี้เอง ก็แสดงว่าร้านไม่น่าจะดูเท่สักเท่าไรหรอก
คุณภาพน่าจะตกต่ำอีกต่างหาก เหมาะกับเด็กวัยรุ่นพอดี อิอิ
ร้านนี้คิดราคาถูกกว่าร้านตึกแถวใกล้บ้านที่ผมพาน้องไปซะอีก ซึ่งเค้าคิดราคาหัวละ 100 บาท 
น้องว่าร้านเนี้ยะ ดูเชยไม่เก๋ (ที่จริงแล้วเราเดินเข้าไม่ถึง เค้าจะรู้ได้ยังไงโฉมหน้าร้านเป็นยังไง)
แต่ถ้านึกสภาพร้านตามราคาการให้บริการ
คือยิ่งแพงก็ยิ่งดูดี
ร้านตึกแถวนี่แหละที่ผมแนะนำไปน่าจะเท่กว่า แล้วดีที่สุดด้วย
เป็นร้านธรรมดาดูชาวๆบ้านหน่อยก็จริง
ไม่ใช่ร้านหรูหราอยู่ในย่านการค้าสวยเริด
แต่เราจะหาร้านเท่ๆ สวยๆ แบบนั้นแถวบ้านเราได้ที่ไหน
ไม่มีหรอก ร้านแถวนี้ธรรมดากันหมด
รวมถึงนางลิ้นจี่ด้วย
ปิดท้ายเรื่องนี้ น้องต้องรออีกหลายอาทิตย์ถึงจะได้ตัดผมได้ (เด็กวัยรุ่นที่เจอกันวันนั้น ก็ไม่ได้พาเค้าไป)
ไม่มีเพื่อนอยากพาไปที่ไหนเพราะน้องเรื่องมาก
สุดท้ายหลังจากที่น้องต้องทนกับผมยาวยุ่งเหยิงเป็นนาน
เค้าก็ได้ไปตัดจริง
แต่ไม่ได้ไปร้านที่ดูเท่ๆนั้นหรอก
หรือแม้แต่ที่ร้านโฉมหน้าธรรมดาใกล้ๆบ้านผมก็ไม่ได้ไปสักหน่อย
แต่ต้องไปเจอความอับอายโดยไปใช้บริการช่างจรที่กลางแจ้งที่ในซอยนั้นเอง
เมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว เค้าต้องต่อแถวรอบริการจากช่างที่จะมาตัดผมให้ฟรีในชุมชนให้คนยากจนนั้นเอง
เค้าตัดทรงธรรมดามาก
'ไปตัดผมที่ไหนมาผมถามเค้าเมื่อเห็นว่าน้องได้ตัดผมมาแล้ว
ทรงผมน้องดูเบสิคมากน่าอายจริงๆ
ผมต้องถามเค้าหลายครั้งเค้าถึงจะยอมตอบว่า
'
อยู่ในซอย'
เค้าพูดเบาๆ ไม่ยอมสบตาผม
ผมรู้ว่าเค้าน่าจะหมายถึงอะไร
ผมไม่ได้ซ้ำเติมน้องหรอกแต่ใจผมอยากพูด อย่าดื้อมากนะเดี๋ยวจะพลาดโอกาสอีก
จะเอาเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียนชีวิตแล้วกันนะลูกเอ๊ย
ป.ล. หรือน้องเลือกเล่นเสี่ยงโชคไปรับบริการกับป้าคนตาบอดนั้นผมไม่รู้ วัยรุ่นมันชอบลับๆล่อๆเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับ ใครจะไปรู้อะไรกันแน่ถ้ามันไม่ยอมพูดเอง
แถมน้องชอบพูดเบาๆ ฟังออกยาก 
ผมเคยบ่นกับแม่เค้าเล่นๆ เรื่องนี้
มพูดได้แต่ว่า อะไรนะ อะไรนะ เพราะฟังน้องไม่ได้ศัพท์
ถ้าขี้เกียจถามแล้วเราต้องเดาสุ่มเอาเองว่าเค้าพูดอะไรไป
แม่เห็นด้วย
'
เค้าพูดเหมือนผู้หญิงเค้าตอบแสบๆ ไม่รักษาหน้าลูกชายเลย อิอิ

now, see here

No comments:

Post a Comment

เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...

โพส์ตเด่น

20plus club (Postscript 3, final)

แคปชั่นก๊อปจากเน็ต: โรงพยาบาลตำรวจบริเวณสี่ แยกราชประสงค์ ปี พ.ศ. 2542 แจกเสร็จ น้องก็นั่งรอจ่ายบิลอยู่ข้างๆผม มือน้องสั่น เหงื่อออกเต็มหน้า...

โพส์ตนิยม