Wednesday 1 July 2015

พระหนีชีวิตเข้าบวช


เคยมีพระองค์นึงที่ชอบแนะว่า ถ้าเจอคนที่ชอบสร้างปัญหาให้ตั
วเรา ห้ามรู้จักคนนั้นไป เพราะเค้าจะชวนเราปวดหัวฟรีๆ 
ฟังคล้ายกับว่าเค้าจะให้เราคว่ำบาตรคนที่เราไม่ชอบใจ
เท่ากับว่า พระองนี้จะเอาแพ้ก่อนสู้รึป่าว
หรือเคยสู้ไปแต่ขี้เกียจหรือเหนื่อยแล้ว ไม่อยากทำอีก
ทุกวันนี้เค้าทำอะไรกันอยู่ ยังมุดหัวซ่อนตัวไว้ที่วัดป่าว 
หรือฟื้นต้วกลับมาสู้กับชีวิตใหม่อีกแล้ว
คนปกติต้องเจอและแก้ปัญหาทุกวัน 
ก็เป็นเรื่องธรรมดา
แล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกันถ้าพระบางองจะเข้าบวชเพราะ ไม่อยากอยู่กับสังคมแล้ว
อาจจะพึ่งหย่ากับเมีย เป็นหนี้สิน ติดเหล้า เป็นเกย์ก็แล้วแต่ 
หรือบางคนเบื่อชีวิตเฉยๆ รู้สึกแพ้ใจ
เราอาจจะเห็นใจบ้าง เพราะเค้าสู้กับชีวิตตัวเองไม่ไหว
สุดท้ายก็เป็นเรื่องของเค้า ใครจะไปว่า
แต่ถ้าเค้าจะสอนหรือแนะให้คนอื่นหนีชีวิตจริงเช่นกัน อย่างที่เค้าเลือกทำอยู่
ผมขอพูดตรง
เค้าน่าจะให้คนสู้ก่อนแพ้
คนนั้นที่ชอบกวนใจเรา เราอาจจะยังคุยกันรู้เรื่องก็ได้นิ
โดยส่วนตัวผมคงจะนับถือพระที่ให้เราสู้กับชีวิตต่อ
ถึงจะเจอลำบากแค่ไหน
เพราะนี้คือชีวิดจริง
ไม่ไช่เจอปัญหาปุ๊ปต้องรีบเข้าบวช หรือซุกซ่อนตัวไว้ที่ห้อง ไม่เจอใคร
เพราะทำแบบนี้จะไม่ได้ช่วยอะไร
ในชีวิตจริง ถ้าเจอปัญหาเราต้องหาวิธีแก้ปัญหานั้นเพื่อเราจะอยู่ด้วยกันต่อไปได้
คือปรับความเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน เริ่มต้นด้วยกันใหม่ได้
พระแบบที่ชอบหนี และสอนให้เราทำตามตัวอย่างของเขา สุดท้ายจะเป็นพระตาบอด เพราะเค้ามองไม่เห็นว่า เค้ากำลังทำร้ายชีวิตคน
เอาเข้าจริง คนส่วนมากไม่มีทางเลือก เราต้องแก้ปัญหาจนสำเร็จให้ได้ เพราะก็ต้องเข้าสังคม ถ้าไม่ทำมาหากินใครจะมาเลี้ยงเราแทน
คนอาจจะสร้างวัดไปด้วยหลายเหตุผล และวัดนั้นอาจจะรับคนเข้าบวชเป็นหลายรูปแบบ
แต่ไม่น่าจะสร้างไว้เพื่อจะให้พระใส้ไตรจีวรแล้วก็หนีชีวิตไป
ไม่ยังนั้นพระจะสอนฆราวาสอย่างไงดีเหรอ
เช่น 'ไม่ต้องไปสนใจปัญหาช้างนอกแล้วโยม มาร่วมกับอาตมดีกว่า ที่นี้เราไม่ต้องทำงานหนักหรอก หรือไปเผอิญปัญหาอะไรทั้งสิ้น เจ่านายไม่ด่า เมียไม่ดุ สนุกดีเอา'
ไม่เอามั้ง พวกพระต้องเป็นตัวอย่างให้ดีกว่านี้ ถึงจะไม่เจอกับปัญหาขีวิตแท้จริงอย่างพวกเราก็เหอะ 
พระต้องแนะให้เราสู้ๆต่างหาก ถูกมั้ย

No comments:

Post a Comment

เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...

โพส์ตเด่น

20plus club (Postscript 3, final)

แคปชั่นก๊อปจากเน็ต: โรงพยาบาลตำรวจบริเวณสี่ แยกราชประสงค์ ปี พ.ศ. 2542 แจกเสร็จ น้องก็นั่งรอจ่ายบิลอยู่ข้างๆผม มือน้องสั่น เหงื่อออกเต็มหน้า...

โพส์ตนิยม