Monday, 8 October 2018

ป๊อป ซอยอมร (5)

ป๊อปและแฟนเค้าชื่อน้องดา 
เวลาผ่านมาอีก
 2-3 ปี ชีวิตน้องดูยังไม่ดีขึ้น
เค้ายังชอบเล่นยาบ่อย 
บางครั้งก็เดินซอยแจกยาที่เรียงกันบนถาดเหมือนบัตเลอร์เลย
จนแม่เป็นห่วง 
แล้วสุดท้ายก็ปิดฉากชีวิตน้องที่ซอยอมร
แม่คงจะถูกญาติเรียกมาช่วย
เพราะสภาพน้องไม่ไหวแล้ว
แม่ขับรถมารับเค้า
เก็บกระเป๋าให้
แล้วพาเค้ากลับไปที่บ้านแถวรังสิต
เพื่อจะดูแลใกล้ชิดหน่อย
ที่โน่นทุกอย่างน่าจะดีขึ้น

-
น้องดาเฝ้าดูเค้าที่งานศพ
ที่โน่นชีวิตน้องเริ่มจะเจริญ
อีกไม่นานก็ได้มีแฟนแล้ว กลับไปเรียนที่ กสน ด้วย
แต่ที่บ้านนั้นเค้ายังเจอปัญหาเดิมๆ ด้วยบ้าง
เค้ายังมีเวลาว่างเยอะเกินไป 
เพราะแม่ต้องไปทำงาน ทิ้งเค้าอยู่คนเดี่ยวที่บ้าน
เค้าเจอพวกเพื่อนใหม่ ที่ทำตัวแรงๆเหมือนเดิม
แล้วไม่ค่อยมีงานทำ
'ไม่มีใครอยากรับเด็กป็อปว่ายังนี้
แม่จ้างผมช่วยดูแลบ้าน แต่ผมเบื่อ
นานๆที เค้าก็เข้าหาเพื่อนเก่าๆที่ซอยอมรแล้วซื้อยามาเล่น
คืนนั้นที่เจอกัน 
เค้ามาซื้อยากับเพื่อน (โดยผมไม่รู้ตัว) แล้วเอากลับไปเล่นกับพี่ๆที่เมืองทอง
เป็นกลุ่มเดียวกันที่จะพาน้องไปเสียชีวิตในที่สุด
มีต่อ

ป๊อป ซอยอมร (4)


ป๊อปสภาพโทรม วันลาก่อนซอยอมร ที่พ่อแม่พาเค้ากลับบ้าน

วันแรกที่ผมเจอป็อป 4-5 ปีที่แล้ว
เค้าหนั่งอยู่กับเพื่อนในซอย
เค้าขอตังค์กินข้าวแถมสร้างเรื่องน่าเศ้ราจังเลย
'ผมไม่มีพ่อแม่ ไม่มี่ที่พัก ไม่มีอะไรกินไมเคิล'
แต่ดันมาใส่เสื้อผ้าสวย
ไว้ทรงผมหล่อๆ 
หลังจากนั้นเราสอบถามเรื่องราวชีวิตเค้าจากคนในซอย
ก็มีจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง
บ้านพ่อก็อยู่ใกล้ แต่พ่อเป็นทนายที่เดินทาง ตจว บ่อย ชอบเฮฮา กลับดึก ป็อปต้องอยู่คนเดียวทุกวัน
ตอนกลางวันซอยเงียบเหงาเพราะเพื่อนๆ
ป็อป เรียนหรือทำงานกันหมด
และในวันหนึ่งต่อมา หลังจากที่เราเป็นเพื่อนกัน เรานั่งคุยกันผมกับป็อป 
ผมพูดถึงอะไรที่เค้าอาจจะเจอในอนาคต
สักวันพวกเราต้องโตขึ้น ชีวิตนี้จะไม่รอเราหรอก’ ผมบอก
ถ้าอยากได้งานที่เราชอบใจ หรือได้เงินเลี้ยงชีวิตตัวเอง
'ป็อปต้องเรียนให้จบก่อน
'อาจจะเรียนไม่เก่ง แต่ก้อควรจะลองทำดูบ้าง ดีกว่าทำตัวเละเทะซ้ำซากทุกวันในซอย’ ผมว่าอย่างนั้นน้องได้ฟังแล้วร้องไห้ เค้าคงจะรู้ดีว่าชีวิตเค้าจะแย่อยู่ถ้าเค้าไม่มีงานทำ เค้าคงจะเห็นคนอื่นแล้วถามในใจว่า มันเป็นไปได้มั้ยว่า ผมจะมีความสุขสบายเหมื่อนคนเค้าบ้าง

ป๊อป ซอยอมร (3)


ป๊อปอายุประมาน 15ปี ที่ซอยอมร

โทษทีไมเคิล ที่สมัยนั้น อยู่ดีๆ ผมหลีกเลี่ยงไม่อยากเจอ ป้า ผมบอกคนในซอยว่า เราชอบมีอะไรกัน
น้องเปิดใจถึงเวลานั้นที่เราเริ่มคบกัน และผมดูแลเค้าในฐานะเป็นพี่หรือพ่อ
เค้ามีญาติคนหนึ่งที่ขายของในซอยแยก เล็กๆ ที่หน้าบ้านพ่อ 
ผู้หญิงคนนี้ตั้งรถเข็นห่างจากหน้าบ้านของพ่อป็อปไม่กี่เมตร เอาไว้สอดแนมฝรั่งถ้าผมอยากมีอะไรกับน้องตอนมืด
พูดเล่น
แต่ป้าคนนี้เห็นผมในซอยนั้นจริง แล้วก็นินทาตามนั้นไปด้วยอารมณ์น้อยใจ
ที่วันเวลาก่อน เค้าเคยขอยืมเงินผม แต่ผมปฏิเสธไป
เค้าขอค่าเทอมลูกผู้ชาย
ถ้าผมยอมให้เค้า ผมต้องเสียเงินเป็นหลายพัน
เค้าออกตัวว่าตัวเอง เค้าเป็นลูกหนี้หลายเจ้าในซอย
เจ้าหนี้เรียงกันเป็นแถวเลย แล้วเริ่มจะเรียกร้องให้เค้าคืนเงินด้วย 
ผมถาม 'ถ้าผมยอมให้เงินจริง ผมจะได้เงินคืนเมื่อไร ถ้าคุณมีเจ้าหนี้เยอะ
คือผมอยากรู้ว่าเค้าจะจัดคิวกันยังไง 
เค้าตอบ 'คนสุดท้ายคะ เพราะไมเคิลมีเงิน'
อ้าว
ที่จริงแล้วเจ๊ไม่อยากคืนเงินเราหรอก 
ป้าคนนี้อยากจะให้ผมให้เงินเค้าฟรีๆโดยไม่ต้องจ่ายคืน
เค้าคิดว่าผมรวยไง
คนพวกนี้คงจะไม่แคร์หรอก ถ้ากระเป๋าตังค์บิ๊กๆของผมต้องเบาลงวูบเมื่อเราหักเงินให้เค้า
เดี๋ยวจะมีเงินเดือนเข้ามาอีก
แถมถ้าผมจ่ายให้ ผมจะได้บุญอีกด้วย ไชโย! เป็นวินวินทั้งสองฝ่าย
-
ป้าคนนี้คิดเหมือนคนไทยหลายๆคน 
เฉพาะคนที่ไม่มีเงิน 
ว่าผมเกิดมาด้วยตังค์ และเค้าไม่มี ยังนั้นผมน่าจะให้เค้าเพื่อจะแก้ความเหลื่อมล้ำ
จักรวาลจะได้อยู่ในสมดุลที่สมบูรณ์แบบและความสามัคคี
เค้าคิดคล้ายๆ กับว่าผมเป็นยักษ์ที่ชอบนั่งคร่อมกองเงินใหญ่เบ้อเร่อ แล้วค่อยกวาดเหรียญบาทออกจากยอดบนสุดกองทุกครั้งที่อยากตามใจคนรับใช้หน่อย  
แต่เปล่านะคับ ผมกลับมาเป็นยักษ์ใจแคบต่างหาก
-
พอน้องได้ยินคำขี้ปากเค้า ว่าเราชอบแอบมีอะไรกัน ซึ่งมันไม่จริง
น้องตกใจตะลึงกลัวคนจะคิดไม่ดี ว่าน้องชอบหลอกเงินฝรั่ง
ต่อจากนั้นเมื่อเจอหน้าผมในซอย 
เค้าเผ่นหนีออกไป โกยสี่ตีนหมาหายตัวไปเข้าซอกแซกในสลัมในชั่ววูป
เป็นยังนั้นอีกหลายเดือน ถึงจะกลับมาปกติ
น้องเล่าให้ฟังต่อในคืนใกล้จบชีวิตของเค้าว่า
มันน่าเสียดาย เพราะวันนั้นไมเคิลบอกว่าจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ผมด้วย’ 
ไม่เป็นอะไรลูก ผมอยากเก็บตังค์นั้นใช้เองอยู่ดี ผมตอบ
เรานั่งหัวเราะกัน
คืนนั้นผมประทับใจน้องจริงๆ แล้วชมเค้าด้วยตามนั้น 
ว่าเค้าเริ่มจะคิดเหมือนผู้ใหญ่ได้แล้ว
ในอีกสองวันต่อมา ผมก็เห็นป้าคนนี้ที่งานศพน้อง 
แต่ไม่ได้รู้สึกอะไร
อีป้านี้คงจะเห็นผมนั่งอยู่ที่งานแต่ไม่ได้ทัก 
เค้ายังยุ่งคุยนินทาอยู่มั้ง 
มีต่อ

โพส์ตเด่น

Blast from the past (part 1)

Jack's Point golf club, with the Remarkables range "คุณเคยมาที่นี่เมื่อก่อนนี้," ผู้จัดการร้านอาหารกล่าวอย่ างเป็นนัย ร้านอาหา...

โพส์ตนิยม