อย่างที่กล่าวไปแล้ว ถ้าน้องไม่ได้นอนที่ห้องวุฒิ เรามักจะเจอเค้านอนที่กลางแจ้งตรงตรอกเข้าชุมชน
ที่คนข้างในเรียกกันว่า โต๊ะแปด
น้องนอนบนที่ม้านั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ลำต้นใหญ่ๆนั้น ที่เป็นตัวเด่นของแถวนี้
ที่จริงแล้วต้นนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มของอีกหลายลำต้นนั้น
ชาวบ้านสร้างศาลเจ้าไว้ที่ฐานโคนต้นไม้นี้เพื่อไว้บูชา
คนข้างในเคยบอกผมว่า ต้นไม้พันธุ์นี้แพร่กระจายไวมากถ้าไม่มีใครสะกัดไว้ก่อน
เมล็ดพันธุ์จะเติบโตแตกกิ่งก้านสาขาออกเป็นต้นใหญ่อย่างรวดเร็ว จนครอบคุมทั่วพื้นที่
แต่คงจะไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับมันหรอกเพราะคนไทยเชื่อว่า ต้นโพธิ์มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ต้นไม้นี้จะแตกกิ่งก้านจนเลยขึ้นไปทั่วจนกลายเป็นอุปสรรคสำหรับเจ้าของที่ดินที่กำลังสร้างโครงการคอนโดใหม่แถวบ้านเรา
ถ้าจะโค่นต้นนี้ก็ต้องแอบทำช่วงกลางคืน
แต่เรื่องนี้อาจจะดูไกลไปหน่อยสำหรับเด็กวัยรุ่นเหมือนน้องที่ไม่มีที่พักที่นอนประจำตอนนี้
ถ้าเล่นยาดึกเค้าคงเลือกนอนที่ต้นโพธิ์นั้น
เค้าไม่อยากรบกวนคนที่บ้านวุฒิที่กำลังนอนอยู่
นอกนั้นน้องรู้ดีว่า ถ้าเค้านอนข้างนอก เค้าจะมีโอกาสได้เจอผมในช่วงเช้าวันถัดไป
เพราะผมเดินไปทางนั้นทุกวันตอนเช้า
เพื่อจะไปเล่นฟิตเนสที่ตึกจอดรถที่ปลายทางของเขตคอนโดใกล้โต๊ะแปดนั้นเอง
ถ้าเค้าหมดตังค์วันไหน เค้าจะย้ายไปนอนที่ต้นไม้ช่วงกลางคืนก่อนนั้น เราจะได้เจอกันช่วงเช้าถัดไป
หน้าที่ของผมก็คือ ถ้าเห็นน้องนอนอยู่ ผมจะปลุกตัวเค้าและพาน้องไปกินข้าว
แม่ค้า (พวกป้าที่พักอาศัยข้างในแต่ออกมาขายของที่ โต๊ะแปด ทุกเช้า) จะเรียกผมให้ไปปลุกน้องถ้าผมไม่ได้เห็นเค้าเสียก่อน
นี่ก็กลายเป็นกิจวัตรประจำเช้าของเรา
-
-
ปกติผมมักจะเจอน้องตอนเย็นๆวันอังคารซึ่งเป็นวันหยุดผม ที่บ้านวุฒิ
ก่อนได้กลับบ้านผมจะฝากเงินเอาไว้ให้น้องซื้อข้าวกิน
เพราะผมต้องกลับไปทำงานแล้ว
คงไม่ได้เข้าไปในซอยอีก เป็น 2-3 วัน
เค้าจะใช้ตังค์นั้นประคองตัวตลอดทั้งวันพุธแต่พอมาถึงเย็นๆ เงินคงใกล้จะหมดแล้วล่ะ
ถ้าน้องอยากกินข้าวในวันถัดไปเค้าต้องหาวิธีเพื่อจะได้เจอผมให้ได้ คือย้ายไปนอนข้างนอกที่ใต้ต้นโพธิ์นั้นเอง
ตอนแรกผมไม่ได้เข้าใจว่าทำไมเรามักจะเจอเค้าข้างนอกทุกเช้าวันพฤหัส (เงินหมดไง)
บางครั้งเค้าจะนอนข้างนอกนี้เป็นหลายคืนติดกัน
เค้าคงนอนรอเจอผมนั้นเอง เพราะในช่วงแรกผมไม่อยากให้เงิน
ผมเลยทิ้งเค้าไปแบบนี้แระ ผมจะส่งสัญญาณเป็นภาษาใบ้ไม่ให้แม่ค้าปลุกเค้าแทนผมด้วย ใจเราไม่อยากเจอไง
แต่เมื่อผมไม่ออกเงินเป็นหลายวันติดกัน ผมจะเริ่มรู้สึกผิด เลยฝืนใจตัวเองปลุกน้องตื่นขึ้นมาแล้วก็พาไปกินข้าว
เมื่อน้องลุกขึ้นหลังจากไม่ได้เจอกันนาน เค้าถามผมทันทีว่า ‘ไมเคิลไปไหนมา’ เหมือนเค้าพึงใจผมให้ช่วยเหลือเค้า และผมน่าจะรู้หน้าที่ตรงนี้ แต่กลับไม่ทำ จนน้องต้องอดกินข้าวไปนาน
(นึกแล้วผมรู้สึกผิดจริง)
แต่เมื่อผมยอมรับสภาพตัวเองว่า ต้องเป็นฝ่ายดูแลเค้า ผมเริ่มรู้สึกดีขึ้น
ส่วนวันอื่นเราจะเจอหรือไม่เจอข้างนอกก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์เค้า (นานๆทีน้องจะไปนอนกับเพื่อนวัยรุ่นที่เช่าบ้านรวมกันในซอยก็ได้ ถ้าไม่ไปนอนที่บ้านวุฒิ)
แต่เราต้องเจอกันช่วงเช้าวันพฤหัสแน่ เพราะเค้าหมดตังค์แล้ว ไม่มีอะไรกิน อิอิ
แม่กลับเข้าฉาก
เห็นได้ชัด แม่เค้าไม่ชอบรับรู้อะไรที่เกี่ยวกับธีร์ตั้งแต่ไล่เค้าออกจากบ้าน
แม่ยืนหน้าประตูบ้าน เดือนมีนา 2019 |
แม่บอกว่า เค้าเอาแต่เรื่องดีๆ เข้าไปในชีวิต (จะมีชีวิตที่ไหนเป็นแบบนี้)
เรื่องหนักใจขอไม่รับ
หลังจากที่ผมไปหาแม่ที่บ้าน แล้วก็โดนแม่ร้องตะโกนใส่หน้า
ผมกลับไปเล่าให้น้องฟัง
ตอนแรกน้องธีร์ไม่พอใจที่ผมแอบไปหาแม่
‘จะไปยุ่งกับเค้าทำไม’ เค้าบอก
พออารมณ์ดีขึ้นหน่อย
เค้าสรุปนิสัยแม่ตรงนี้ให้ผมฟังว่า
'แม่ไม่ชอบมีเรื่องกังวนใจ ชอบคิดแต่เรื่องเบาๆ รู้ไว้ด้วย’แม่เคยเขียนถึงนิสัยตัวเองแบบนี้ไปแล้วที่เฟซเค้า เหมือนเตือนให้พวกเรารู้ไว้ ว่า
'(ฉัน) 'ไม่จำเป็นต้องฟังทุกเรื่องไม่จำเป็นต้องมองทุกเรื่อง'
now, see here
No comments:
Post a Comment
เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...