Saturday 20 August 2022

เถ้ากระดูกเดินทางไกล (13, final)

น้องชายเรากับอาดีดเมียโทนี่
 สำหรับ นาย Stewart ผู้ที่กระทำผิดต่อน้องชายเรา
ทางศาลเห็นด้วยว่า นาย Stewart ทำร้ายกับเด็ก 7 คนทั้งหมดรวมถึงน้องเราด้วย ตามที่อัยการฟ้อง
แต่เนื่องจากว่า ชาวบ้านแถวบ้านเค้า ดันไปยุ่งกับคดี นาย Stewart โดยขึ้นป้ายประกาศว่าเค้าชอบทำร้ายเด็ก และนำพาให้นาย Stewart มีความอับอายเกิดขึ้น
ผู้พิพากษาอ้างว่า นาย stewart โดนสังคมประนามพอแล้ว เลยสั่งให้จำเลยไม่ต้องติดคุก
เค้าถูกลงโทษเป็นจำคุกโดยรอการลงอาญา 2ปี แทน
น้องชายเราโกรธเมื่อได้ยินข่าวร้ายนี้
แต่เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว เราได้ยินข่าวเสริมว่า ทางรัฐขับไล่นาย stewart ออกจากประเทศเรียบร้อยแล้ว
ในฐานะเค้าถูกตัดสินลงโทษเป็น child abuser (ถึงไม่ต้องติดคุกก็ตาม)
เค้าถูกเนรเทศกลับไปที่ประเทศเกิดคือ นิวซีแลนด์ นั้นเอง
-
ส่วนโทนี่ อดีตเมียน้องชายเรา เราเห็นจากเฟซเค้าว่า โทนี่คิดว่าน้องเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวเองตาย
เป็นผลที่มาจากการโดนทำร้ายสมัยตอนเป็นเด็ก
ซึ่งอาจจะมีหลายคนคิดเช่นนี้เพราะน้องยังอายุน้อย ตอนเสียชวิต อายุแค่ 44 ปีเอง
อย่างที่รู้กันอยู่ สภาวะฆ่าตัวเองตาย มีความอัปยศทางสังคม
ฝรั่งมักจะคิดว่า คนที่ตัดสินฆ่าตัวเองตาย เป็นพวกขี้แพ้ ไม่ยอมสู้
ผมไม่อยากให้ลูกๆ ของน้องคิดแบบนี้ถ้าคิดถึงพ่อเค้าหรอก
น้องของเราสู้เป็นใจนักเลงจะตาย
หลังจากเค้าเลิกกับเมีย
เดวิดใช้เวลา 18 เดือนก่อนจากไปนั้น
วางแผนเริ่มชีวิตใหม่
เดวิดซื้อรถแพงๆ สองคัน ขายบ้านลงทุนสองหลัง มูลค้ารวม $1.4 ล้าน แล้วก็มุ่งมั่นใช้ frequent flier points เพื่อไม่ให้อดีตเมียได้เรียกแต้มนี้คืนในการแย่งสมบัติสินสมรส
(ผมได้รับผลประโยชน์จากการ burn แต้มน้องด้วย เมื่อน้องไปเที่ยว สิงคโปร์และ ไทย สองเดือนก่อนจะเสียชีวิต และแวะมาหาผมที่ กทม ด้วย)
นี้คือนิสัยขี้แพ้เหรอ
ไม่ใช่เลย
แต่ผมกลัวว่าลูกๆน้องคงไม่รู้ความจริง
และตราบใดที่โทนี่ไม่ให้ครอบครัวได้เจอกัน
คงจะหมกมุ่นคิดผิดว่า น้องตกเป็นเหยื่ออย่างเดียว
โทนี่เรี่ยไรเงินบริจาคให้องค์กรป้องกันการฆ่าตัวเองตาย
โทนี่จะไม่มีวันรับผิดหลอกว่า การกระทำที่แย่ๆของเค้าเอง พาน้องไปเจออันตรายจนถึงขีดจนเสียชี
วิต
เพราะฉะนั้นเค้าต้องอ้างว่า เดวิดเสียชีวิตด้วยมือตัวเอง เป็นการฆ่าตัวเองตายเท่านั้น
เหมือนตัวเค้าเองที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ซึ่งไม่จริงเลย
โทนี่ยังกลัวว่าความจริงจะถูกเปิดโปงออกมา เลยกั้นไม่ให้เราเจอกัน
เราเห็นสันดานเค้าได้ชัดเลย
-
ตอนนี้ เถ้ากระดูกน้องถูกแบ่งแยกคนละที่กันระหว่าง
อยู่ที่อดีตเมียเค้าที่ออสซี่ และ ที่ครอบครัวเรา
ในเวลาต่อไปจะมีโอกาสให้เดวิดกลับมารวมเป็นร่างเดียวกันอีกมั้ย
ก็ขึ้นอยู่กับกาลเวลาผ่านไป ตอนนี้เรายังไม่เข้าใจกัน
แต่สักวันหนึ่ง รอยร้าวระหว่างครอบครัวเราอาจจะสมานติดกันบ้างก็ได้
รุ่นหลังๆ จะลองใจพูดคุยกันในวันข้างหน้ามั้ย โดยผู้ใหญ่ไม่รับรู้
เราจะลุ้นกันตรงนี้
กว่าวันนั้นจะมาถึง
ผมขอเฝ้าดูโกศอัฐิของน้องเราที่ผมวางเค้าไว้ในมุมหนึ่งของห้องนอนเราละกัน
และขอให้น้องเราเฝ้าดูผมเช่นกัน

เถ้ากระดูกเดินทางไกล (12)

Royal Commission ทำง่านอยู่
Update:

น้องสาวสองคนของเรายังเป็นผู้จัดการมรดกของ ทรัสต์ ที่เดวิดแต่งตั้งขึ้นก่อนเสีย
โทนี่ก็ยังยื่นข้อเสนอให้ ทรัสต์ ออกค่าใช้จ่ายหลายสารพัดให้ลูกๆเค้า แทนที่เค้าจะออกเอง
น้องสาว ในฐานะเป็น trustees อาจจะอนุมัติออกตังค์ให้บ้าง ไม่ออกให้บ้าง แล้วแต่พิจารณา
เค้าทำหน้าที่นั้นตั้งแต่น้องชายเราเสีย
แต่ในระยะเวลา 10 ปีมานี้ ไม่เคยคุยกับอีโทนี่ หรือว่าเจอลูกเค้าเลย
เพราะอีโทนี่ไม่อยากให้เราเจอกั
แม้ว่าเราตกลงเรื่องมรดกกันเรียบร้อยแล้ว

Ian Paterson
หลังจากที่ เด็กๆ ในสถาบันต่างหลายแห่ง เช่น รร นิกายศาสนา สถานที่เลี้ยงดูเด็กกำพร้า ฯลฯในออสเตรเลีย
ตกเป็นเหยื่อ child abuser และออกเป็นข่าวหลายปีต่อเนื่อง
รัฐบาลออสเตรเลียแต่งตั้ง Royal Commission into Institutional Responses to Child Sexual Abuse (ซึ่งน่าจะแปลเป็น พระราชกรณียกิจสอบสวน
การตอบสนองของสถาบันต่อการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก) ในพฤศจิกายน มกราคม 2012
เพื่อจะสืบสวนเรื่องและให้มีการแก้ไข
commission นั้น (หรือเรียกกันว่าคณะกรรมการ) ยก Knox เป็นกรณีศึกษา
อดีตนักเรียน 12คน ที่ตกเป็นเหยื่อจากครู
ให้การในเฮียร์ริ่ง รวมถึงพ่อแม่บางคนด้วย
คนที่ถูกกล่าวหาว่า ละเลยต่อหน้าที่ ถูกเรียกให้การต่อหน้าคณะกรรมการ และฝ่ายร้องทุกข์คือพ่อแม่และผู้เป็นเหยื่อ
หนึ่งในนั้นคือ นาย Paterson ครูใหญ่ Knox สมัยนั้น
ที่มี pedophile ring อยู่ใต้ร่มเงาเค้า แต่กลับเพิกเฉย ไม่ได้ทำอะไรเลย
ในรายงานต่อรัฐสภา คณะกรรมการเห็นว่า นาย Paterson ทำผิดและให้การเท็จที่อ้างว่าไม่รู่เรื่อง
ถึงแม้ว่า นาย Paterson ตอนนี้ยังไม่ได้ถูกฟ้องคดีแต่อย่างใด
แต่ชื่อเสียงเค้าไม่มีเหลืออะไรแล้ว เค้าจะเอาหน้าไว้ที่ไหนไม่รู้
ส่วน Knox นั้น ถูกอดีตนักเรียนผู้เป็นเหยื่อของ sex ring นั้น ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นหลายล้านดอลลาร์

มีต่อ

เถ้ากระดูกเดินทางไกล (11)

เถ้ากระดูกน้องและในรูปข้างหลัง ผมกับน้องสมัยเด็ก

ครอบครัวไหนที่เสียสมาชิกในครอบครัวก่อนวัยอันควร มักจะลงโทษตัวเองบ้าง ที่ไม่ได้ช่วยเค้าให้มากกว่านี้ พ่อแม่ไม่อยากให้เราคิดแบบนั้น
เพราะพวกเราทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในวันที่ 6 กันยายน 2017 แม่บอกว่า

Try not to wonder if you "did enough" as a brother. It is frighteningly easy to blame yourself, and unfortunately we too are also very good at it.  It is soul-destroying. Not being able to say goodbye and tell him how much we loved him was devastating for us (as it would have been for you and each of the girls).

แต่ผมรู้ว่า ตอนที่น้องหนักใจเรื่อง abuse และ divorce นั้น เค้าต้องมีเวลาบ้างที่ต้องสู้คนเดียว เพราะผมไม่อยู่ ผมลาจากนิวซีแลนด์ และย้ายไปที่เมืองไทย 1-2 ปี ก่อนที่น้องเราจะได้แต่งงานกับอีโทนี่ไป
ตอนนั้นผมไม่ได้รู้หรอก ว่าคงไม่กลับไปที่ออสซี่หรือ
นิวซีแลนด์นั้น

เราย้าอยจาก Christchurch ในเดือนสิงหาคม ปี 2000 ซึ่งตอนนั้นน้องยังไม่ได่แต่งงานเลย 

แต่ถ้ามองย้อนกลับไป ก็ราวกับว่าผมเดินออกจากชีวิตครอบครัวเราตอนนั้น
ปีต่อจากนั้น น้องสาวเราสองต่างก็แต่งงานกันที่ นิวซีแลนด์ ด้วย
แต่ผมไม่ได้กลับไปร่วมงานแต่งเค้
และไม่ค่อยได้เจอลูกๆเค้าด้วย
แต่ละคนต่างก็มีลูกสามคนที่โตเป็นวัยรุ่นแล้ว
เค้าโตมาโดยผมไม่ได้ทำหน้าที่เป็นน้า
เราแทบไม่รู้จักกันเลย
อย่างนั้น ถ้าผมรู้สึกผิดนิดหนึ่งที่ช่วยน้องเดวิดไม่ได้ ก็ไม่น่าตกใจ
ผมเขียนวลีสั้นๆนี้เอาไว้เป็นที่ระลึกถึงน้องและชอบอ่านเวลาคิดถึงเค้า
เนื้อหาย้อนถึงวันนั้น ที่น้องพาผมไปที่สนามกอล์ฟ และสอนการจับไม้กอล์ฟให้ถูกต้อง
เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เราได้เล่นกัน

I didn't see much of you as an adult
and I wish I'd told you when I could
you will always be my brother
even as our spirits age.
One day we'll meet again
and tee off golf shots into the sky.
until then, be cool, my brother
you're with us every day.

มีต่อ 

โพส์ตเด่น

Mr Handsome returns

Mr Handsome เป็นผู้ชายไทยเกย์หนุ่มที่ เคยเขียนโพสต์ให้บล็อก Bangkok of the Mind หรือ BOTM2 (เป็นรุ่นพี่ของบล็อกฉบับนี้) เป็ นประจำหลายปีก่อน...

โพส์ตนิยม